วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Class Discussion Week 1

นศ. ลองอ่านCaseนี้ดูนะครับ แล้วลองDiscussว่านอกจากstrategyที่Price Chopperใช้อยู่ในcase ถ้าเราเป็นconsultให้บริษัทเขา เราจะแนะนำการใช้ ระบบ IT ประเภทใดได้อีก

http://www.rogerclarke.com/EC/PriceChopper.html

59 ความคิดเห็น:

  1. อาจารย์ครับ อ่านเสร็จแล้วทำไรต่อครับ

    ตอบลบ
  2. ในปัจจุบันนั้น Price Chopper มีการ Implement ระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการ payment ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น cash หรือ Noncash Payment และระบบ Inventory เข้าไปแล้ว แต่สิ่งที่ Price Chopper นั้นยังไม่ได้ Implement คือ ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับลูกค้า โดยผมคิดว่า Price Chopper ควรจะนำระบบIT ต่อไปนี้มาใช้เพิ่ม

    1. A Business Intelligence ซึ่งจะเป็นระบบที่มี Information Query Capability ในการดำเนินการทำ Data mining บน Data Warehouse และData Mart โดยตัวอย่างประโยชน์ของการมี Business Intelligence นั้นได้แก่ การที่ Price Chopper สามารถใช้ Data Warehouse เพื่อใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าในแต่ละสาขา ว่ามีพฤติกรรมการซื้ออย่างไร ในแต่ละครั้งจับจ่ายใช้สอยอะไรบ้าง แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อที่จะสร้างแผน Promotion ที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ตลอดจนการจัด Store Layout ที่เหมาะสมกับ Customer Behavior

    2. CRMS (Customer relationship management system): เนื่องจากปัจจุบัน ตัวบริษัทเองก็มีข้อมูลการใช้จ่ายของลูกค้าอยู่แล้วในการซื้อสินค้าแต่ละประเภทในแต่ละร้านค้า ผ่านระบบ Payment ที่บริษัทได้ Implement ไปเรียบร้อย ตัวบริษัทจำเป็นที่จะต้อง CRMS เพื่อที่จะใช้ข้อมูล Profile ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม สำหรับการวิเคราะห์เพื่อนำเสนอ Product Mix ที่เหมาะสมกับ Customer Need ของลูกค้าแต่ละกลุ่มในแต่ละร้านค้า และบรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างความพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาวอีกด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มยอดขายโดยเน้นแนวความคิด Increasing Share of Wallet

    ตอบลบ
  3. จาก case ที่ได้ศึกษา พบว่ามีการตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 16 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าความก้าวหน้าของ IT Solution for Supermarket ในสหรัฐอเมริกาค่อนข้างมีการพัฒนาที่เหนือกว่าระบบในบ้านเรา แม้ในปัจจุบัน Hyper Market หลายรายในไทยได้ implement solution ทางการเงินและการตลาดหลากหลายรูปแบบ มีช่องทางการชำระเงินทั้งในรูปเงินสด บัตรเครดิต และเช็คของขวัญ การเสนอบัตรสมาชิกให้แก่ลูกค้าในรูปแบบของ Club card หรือ Spot Reward ที่สามารถใช้สะสมแต้มเพื่อเป็นส่วนลดในการจับจ่ายสินค้าครั้งต่อไป รวมถึงการเก็บฐานข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าแต่ละรายนิยมซื้อ เพื่อเสนอ Promotion ที่ผ่านการ customized สำหรับลูกค้าแต่ละคน อย่างไรก็ตามความทันสมัยและการประหยัดต้นทุนในแง่ของการบริหารจัดการ Inventory ยังไม่พบเห็นมากนัก

    ในส่วนของ Price Chopper จะเห็นว่ากิจการมีความพยายามค่อนข้างมากในการนำ IT Solution เข้ามาประยุกต์ใช้ในองค์กร ตั้งแต่การใช้ EDI ในการรับสินค้าสินค้าจากซัพพลายเออร์ เพื่อความสะดวก ประหยัดต้นทุนในการบริหารสินค้า รวมถึงช่วยลดความผิดพลาดในการนับสต็อก การใช้ EFT ณ จุดขายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าจากการมีช่องทางการชำระราคาสินค้าหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการติดตั้งช่อง Self-service checkout นอกจากนี้บริษัทยังได้ประโยชน์จากการขายฐานข้อมูลการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าให้แก่บริษัทหรือสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งสร้างกำไรอย่างมหาศาลให้แก่บริษัทอีกด้วย

    จาก case จะพบว่าบริษัทใช้วิธี DSD (Direct Store Delivery) ในการรับสินค้าจากซัพพลายเออร์ ดังนั้นสินค้าจะไม่ผ่านการเก็บรักษาใน warehouse แต่จะนำไปวางขายในร้านค้าเลยทันที จาก case จะเห็นว่าระบบการควบคุมการรับส่งสินค้ารวมถึงการออก invoice ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว แต่สิ่งที่ Price Chopper ควรให้ความสำคัญในการบริการจัดการ Inventory เพิ่มเติมคือการรักษาระดับปริมาณสินค้าที่วางขายให้เพียงพออยู่เสมอ อาจใช้โปรแกรมการคำนวณหา Reorder point และ EOQ หรือปริมาณการซื้อที่ประหยัดสูงสุด โดยข้อมูลนี้ควรเชื่อมต่อไปยัง Supplier ด้วย เพื่อให้การใช้งานระบบ EDI เกิดประสิทธิผลสูงสุดทั้งระบบ ตั้งแต่ Ordering, shipping และ Billing

    โดยการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่พันธมิตรทางธุรกิจทั้งหมดสามารถเข้าถึงข้อมูลระหว่างกันได้แบบ real-time นี้เรียกว่า CPFR (Collaborative, Planning, Forecasting and Replenishment) ซึ่งเป็นการวางแผนและพยากรณ์ความต้องการของสินค้า เพื่อหาจุดที่เหมาะสมของการส่งสินค้าตลอดสายโซ่อุปทาน โดยอาจใช้ VPN ในการเข้าถึงข้อมูลร่วมกันและควรมีระบบป้องกันการ access ข้อมูลของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น password หรือ encryption เป็นต้น

    ตอบลบ
  4. เนื่องจาก Price Chopper ได้นำกลยุทธ์ Self-Service Checkout เข้ามาใช้ แต่ทางบริษัทใช้วิธีการสแกนบาร์โค้ดสินค้าทีละชิ้นในขั้นตอนการชำระเงินของลูกค้า ซึ่งทำให้เสียเวลาและเสี่ยงต่อการสับเปลี่ยนสินค้าได้ ถึงแม้จะมีวิธีการตรวจสอบแล้วก็ตาม ดังนั้น ในฐานะของที่ปรึกษาของบริษัทนี้ จึงอยากแนะนำให้บริษัทนำระบบ RFID (Radio Frequency Identification) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไร้สายที่ใช้คลื่นความถี่ประเภทหนึ่งเข้ามาใช้ วิธีนี้น่าจะมีส่วนช่วยในระบบการคำนวณราคาสินค้าและการชำระเงินให้เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว และรัดกุมมากขึ้น โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีบันทึกข้อมูลสินค้าอื่น RFID นอกจากเก็บข้อมูลได้เยอะกว่า ป้องกันขโมยได้แล้ว ยังช่วยให้สามารถคำนวณราคาสินค้าทั้งหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว และไม่ต้องอาศัยการสแกนที่ตัวสินค้าทีละชิ้น แต่ยังต้องคำนึงถึงต้นทุนของ RFID Tag ด้วย ซึ่งอาจจะมีต้นทุนที่สูงกว่าบาร์โค้ดด้วย ดังนั้นอาจจะเริ่มต้นนำไปใช้กับสินค้าที่มีราคาสูงก่อน ซึ่งความสะดวกรวดเร็วนี้น่าจะสร้างความพอใจให้กับลูกค้าที่มาซื้อสินค้า รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยให้กับทางบริษัทด้วย

    นอกจากนี้ ในปัจจุบันเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงกำลังแพร่หลาย และผู้ที่เป็นลูกค้าของบริษัทก็น่าจะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นเทคโนโลยี Online shopping ก็น่าจะนำเข้ามาใช้ด้วย เป็นการขายสินค้าให้กับลูกค้าผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท โดยในเว็บไซต์จะมีข้อมูลของสินค้าและจำนวนสินค้าในคลังสินค้าระบุไว้ ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าได้จากที่บ้าน โดยอาจเลือกมารับสินค้าที่ Supermarket หรือใช้บริการขนส่งสินค้าจากทางบริษัทก็ได้ โดยในเรื่องการขนส่งสินค้า หากทางบริษัทไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็อาจ Outsource บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะได้ ซึ่งการขายสินค้าออนไลน์น่าจะเป็นทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้าอีกทางหนึ่งของลูกค้า สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกจะมาซื้อของด้วยตนเอง หรือชอบเลือกซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว อีกทั้งลูกค้าสามารถเลือกชำระค่าสินค้าด้วยเงินสด หรือทางบัญชีธนาคารก็ได้ โดยอาจจะต้องมีระบบเอกสารหลักฐานที่ใช้ยืนยันในการรับสินค้า ซึ่งวิธีนี้ก็น่าจะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้เพิ่มลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้

    Sirikwan L. (5202112693)

    ตอบลบ
  5. การใช้hand-held unit เพื่อส่งข้อมูลการรับของ อาจจะเกิดข้อผิดพลาดได้(สูญหาย โดนไวรัส ฯลฯ) price chopper น่าจะเปลี่ยนการส่งข้อมูลด้วยวิธีอื่นแทน เช่น การส่งข้อมูลผ่านระบบไร้สาย ซึ่งน่าจะปลอดภัยกว่า และถูกต้องแม่นยำกว่า

    ตอบลบ
  6. Price Chopper เป็น Supermarket Chain ที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมง มีสาขากว่า 80 สาขาทั่ว New England โดยเฉลี่ย counter cashier ประมาณ 12 counter ซึ่งถือว่าเป็น Super Market ขนาดกลางถึงใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีสินค้าหลากหลายชนิดไว้เพื่อบริการลูกค้า ดังนั้น IT ที่น่าจะเหมาะสมกับ Price Chopper ก็คือ

    Electronic shelf labels : ESL เป็นป้ายราคาแบบจอ LCD สามารถ update ราคาได้อย่างถูกต้องพร้อมกันทุกสาขาและทันที สามารถทำงานได้ดีภายใต้สภาวะแย่ เช่น บริเวณอาหารแช่แข็ง ซึ่ง ESL นี้จะช่วยช่วยลดปัญหาราคาสินค้าไม่ตรงกันระหว่างจุดชำระเงินและshelf และยังช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานในการเปลี่ยนป้ายราคา ทำให้ Price Chopper สามารถปรับราคาได้ทันท่วงทีกับการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่แข่ง

    นอกจากนี้ Price Chopper นำระบบ IT ไปใช้กับระบบ Supplier ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าคงเหลือแล้ว แล้วยังสามารถนำไปใช้กับระบบจัดการ Demand ของลูกค้าได้เช่นกัน คือ

    Demand Management ทำหน้าที่เก็บข้อมูลการซื้อสินค้าของลูกค้าผ่านระบบ IT (เช่น บันทึกจากตอนที่ลูกค้าจ่ายชำระค่าสินค้า เก็บเป็นประวัติลูกค้าจาก Member Card ) เพื่อช่วยในการพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าและประมาณการสินค้าคงเหลือ เนื่องจากsupermarket ทั่วไปนั้นจะมีสินค้าจำนวนมาก และมีราคาที่หลากหลายต่างกัน หากลูกค้าไม่สามารถหาสินค้าที่ต้องการได้ อาจเลือกใช้สินค้าทดแทนอื่นที่มีราคาต่ำกว่า ทำให้ supermarket มีรายได้และกำไรที่ต่ำลง นอกจากยังสามารถสร้าง promotion เฉพาะคนให้กับลูกค้าได้จากข้อมูลการซื้อสินค้าเช่นกัน โดยใช้การวิเคราะห์ว่าลูกค้าซื้อสินค้าอะไรเป็นประจำ ปริมาณเท่าใด เพื่อสามารถออกแบบส่วนลดที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าได้ ทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น ช่วยสร้างข้อได้เปรียบให้กับ Price Chopper

    ตอบลบ
  7. เนื่องจาก Price Chopper เป็น Supermarket เหมือนกับ Walmart ดังนั้น Price Chopper สามารถใช้ IT ที่เหมือนกับ Walmart ได้ ซึ่งควรใช้ระบบVMI (Vendor-Managed Inventory) คือ supplier ของ Price Chopper เป็นผู้ตัดสินใจว่า เมื่อใดจึงควรจะจัดส่งสินค้า ให้กับPrice Chopper และจัดส่งมาในปริมาณเท่าไร และสินค้าอะไรบ้างที่ต้องจัดส่งมา และใช้ระบบ Retail link ซึ่งจะเชื่อมข้อมูลยอดขายและสินค้าคงคลังไปยังคู่ค้าทั้งหมดของ Price Chopper เพื่อให้ supplier สามารถดูข้อมูลสินค้าของตนเองได้ เพื่อที่จะได้วางแผนการผลิตให้เหมาะสม สามารถผลิตหรือจัดหาสินค้าได้ทันเวลา และตรงความต้องการของลูกค้าและบริษัท
    แต่ IT ที่นำมานี้ต้องดูด้วยว่าจะคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไปหรือไม่ เพราะว่าถ้าหากทำแล้วกำไรลดลง ก็ไม่สมควรใช้ระบบนั้น

    ปล. สามารถใช้ RFID แบบ Walmart ได้ด้วย ตามที่ Sirikwan ได้ตอบไปใน Comment ที่ 4

    ID 5202113048

    ตอบลบ
  8. เห็นว่า...Price Chopper (ขอย่อเองว่า PC) มีการนำ IT มาใช้ในการดำเนินธุรกิจค่อนข้างมากกกกกกกและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง เนื่องจากเห็นได้ว่ามีการวางนโยบายพร้อมรองรับโครงการและเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกระดับแบบ Top-down Management อีกด้วย

    อย่างไรก็ตามเห็นว่า PC ควรใช้ IT กับงานบริการลูกค้าให้มากขึ้นและสอดคล้องกับแนวทางโดยรวมที่ PC ตั้งใจและบอกโดยนัยกล่าวคือ การริเริ่มระบบ Self-service checkout เสมือนการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่รักความสะดวกสบาย ความรวดเร็วและกลุ่มรักการเรียนรู้สิ่งใหม่ที่เปลี่ยนแปลงเร็วอย่าง IT ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงาน

    ดังนั้น Delayed Purchase incentive น่าจะไม่สามารถสร้างสมาชิกจากกลุ่มลูกค้านี้ได้ เพราะขัดกับลักษณะพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าและขัดต่อความพยายามของ PC เองที่มุ่งสร้างระบบการชำระเงินให้เร็วขึ้นอีกด้วย เห็นว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นการร่วมโปรโมชั่นกับคู่ค้าให้มากขึ้นหรือจำหน่ายสินค้าในลักษณะ Only@ PC มากกว่าหรือประชาสัมพันธ์และแสดงศักยภาพด้าน IT ให้เด่นชัดถึงประโยชน์ที่ลูกค้าสัมผัสได้ผ่านสถานการณ์จำลอง การทดลองระบบ การร่วมออกแบบ ซึ่งการสร้างส่วนร่วมน่าจะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าดังกล่าวได้และสร้างภาพลักษณ์ IT ของบริษัทออกสู่วงกว้าง

    อีกประการหนึ่งเห็นว่า PC มีการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของสมาชิกแต่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์เท่าที่ควร เห็นว่าควรส่งข่าวสารและพัฒนาโปรโมชั่นจากลักษณะการใช้จ่ายที่เป็นเอกลักษณ์ของสมาชิกแต่ละรายได้ผ่านทางอีเมล์ ข้อความทางโทรศัพท์ หรือสร้างจุดการตรวจสอบโปรโมชั่นที่ออกแบบสำหรับสมาชิกแต่ละรายโดยเฉพาะบริเวณแผนกงานบริการลูกค้าก่อนการใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นการใช้ IT ได้อย่างครบด้านมากขึ้นและยังสามารถสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าได้อีกด้วย

    =๐='
    พิมพ์ชนก เกตุสุวรรณ์ 5302110076

    ตอบลบ
  9. เพิ่มเติมประเด็นของ ~┢┦ảnaĐεқΛ~ εїз™ เกี่ยวกับ website ของ price chopper ซึ่งสามารถเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้ price chopper ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งนี้ price chopper สามารถใช้ website เป็นทั้งช่องทางการขายสินค้าแบบ online shopping หรือเป็นที่ โฆษณา promotion ต่างๆ หรือ สามารถให้ลูกค้า check ราคาสินค้าจาก website ได้


    นอกจากนี้ social network ที่ฮิตๆ อย่าง facebook หรือ twitter น่าจะสามารถนำมาใช้เป็นอีกช่องทางที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้เช่นกัน อีกทั้งจะทำให้ price chopper ทราบ feedback ของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

    ตอบลบ
  10. price chopperสามารถเข้าถึงข้อมูลการซื้อสินค้าของลูกค้ารายตัวได้ด้วยการสร้างapplicationสำหรับsmartphone/tabletให้ลูกค้าสามารถscan UPC codeของสินค้าที่ซื้อไป เพื่อรับสินค้าตัวอย่างหรือรับโปรโมชั่นอื่นในแต่ละเดือน

    โดยลูกค้าจะต้องมีการสร้างprofileของตนเอง ซึ่งจะทำให้price chopper สามารถทราบspecific needของลูกค้าได้ด้วย

    หรืออาจเป็นapplicationที่แสดงรายละเอียดของสินค้า แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง โปรโมชั่นที่เกี่ยวข้อง และสามารถระบุตำแหน่งสินค้าว่าอยู่ช่องไหน ชั้นวางใด เพื่อให้สะดวกต่อการหา

    ตอบลบ
  11. จากการศึกษา case ของ Price Chopper ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐอเมริกา พบว่า Price Chopper ได้มีการนำ IT มาประยุกต์ใช้กับองค์กรมากพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ระบบการรับ-จ่ายเงินในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนงานหลักขององค์กร
    ข้าพเจ้าคิดว่าสามารถนำระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) หรือการบริหารทรัพยากรขององค์กร เข้ามาใช้เพิ่มได้ใน Price Chopper เนื่องจาก ERP เป็นระบบที่นำข้อมูลจากแผนกต่างๆ มาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน จะก่อให้เกิดผลดีต่อองค์กรในเรื่องหลักๆ คือ 1.ประหยัดเวลา 2.ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล 3.ลดขั้นตอนในการติดต่อกันทางเอกสาร และ4.ลดต้นทุน โดย Price Chopper สามารถนำ ERP มาประยุกต์ใช้ได้ เช่น ในส่วนการจัดการดูแลสินค้าคงคลัง เมื่อมีการขายสินค้า ข้อมูลของสินค้าที่ลดลงจะส่งไปยังคลังสินค้า และหากสินค้าใกล้หมดก็สามารถติดต่อไปยัง Suppliers ได้ทันที เป็นต้น

    ตอบลบ
  12. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  13. PC สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคงเหลือได้โดยการจัดทำฐานข้อมูล สินค้าคงเหลือ และระบบในการวิเคราะห์คุณภาพของ Supplier แต่ละราย เช่น ความสามารถในการจัดส่งสินค้าได้ตรงตามเวลา ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นต้น นอกจากนี้PC ยังสามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลสินค้าได้ว่า สินค้าประเภทใด หรือยี่ห้อใดที่มี Turnover ต่ำ ทำให้เสียต้นทุนในการจัดเก็บสินค้า และเสียโอกาสในการตั้งสินค้าอื่นๆ ที่ให้ยอดขายมากกว่า การทำเช่นนี้คาดว่าจะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุน และเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุด

    ID 5202112685

    ตอบลบ
  14. จากการศึกษา Case Study PC และประเด็นต่างๆของเพื่อนในclass อยากจะเสนอความเห็นเพิ่มเติมจาก Kapongnom เกี่ยวกับ VMI จากที่Kapongnomได้พูดไปแล้วเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลระหว่าง PC และ supplier ทั้งหลายนั้นจะช่วยให้บริษัทนั้นสามารถที่จะบริหารสินค้าคงคลังของบริษัทได้ดีขึ้น ซึ่งนอกจากการบริหารข้อมูลระหว่างบุคคลภายนอกและองค์กรแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การบริหารข้อมูลภายในองค์กรเนื่องจากหากข้อมูลภายในองค์กรนั้นมีความผิดพลาดตั้งแต่ต้นหรือข้อมูลนั้นไม่สามารถกระจายไปสู่ผู้ใช้งานในองค์กรได้อย่างทั่วถึงย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีความน่าสนใจในปัจจุบันคือ ERP หรือEnterprise Resource Planning ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในการการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดของทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร
    โดยระบบดังกล่าวนี้จะช่วยให้สามารถวางแผนการลงทุนและบริหารทรัพยากรขององค์กรโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ERP จะช่วยทำให้การเชื่อมโยงระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต และการขายทำได้อย่างราบรื่น ผ่านข้ามกำแพงระหว่างแผนก และทำให้สามารถบริหารองค์รวมเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ทำให้ข้อมูลภายในนั้นไหลได้ทั่วถึงองค์กร และมีความผิดพลาดลดลง เนื่องจากระบบ ERP เป็นระบบสารสนเทศขององค์กรที่สามารถบูรณาการ รวมงานหลัก (core business process) ต่างๆ ในบริษัททั้งหมด ได้แก่ การจัดจ้าง การผลิต การขาย การบัญชี และการบริหารบุคคล เข้าด้วยกันเป็นระบบที่สัมพันธ์กันและสามารถเชื่อมโยงกันอย่าง real time ทำให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างการไหลของสินค้าพร้อมๆกับการไหลของข้อมูล อีกทั้งยังสามารถรับรู้สถานการณ์และปัญหาของงานต่างๆ ได้ทันที และตัดสินใจแก้ปัญหาบริษัทได้อย่างรวดเร็ว
    นอกจากนั้นเทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนหรือการจัดซื้อต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะระบบดังกล่าวนั้นจะช่วยให้สามารถบริษัทนั้น คำนวณ ต้นทุนและกำไรขาดทุนของบริษัทเป็นรายวัน ทำให้เห็นถึง Feedback ได้อย่างรวดเร็วซึ่งบริษัทนั้นสามารถนำผลลัพธ์ดังกล่าวไปปรับปรุงได้อย่างทันท่วงที

    จากเทคโนโลยีดังกล่าวนี้เองหากบริษัทได้ใช้เทคโนโลยีนี้ควบคู่กับ VMI น่าจะสามารถช่วยให้บริษัทนั้นสามารถที่จะบริหารข้อมูลทั้งภายในองค์กรและระหว่างองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การทำงานของบริษัทนั้นมีความรวดเร็ว ถูกต้อง ทันต่อเวลา และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวนั้นเป็นระบบที่มีขนาดใหญ่เนื่องจากต้องทำการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแผนกทั่วทั้งองค์กร ดังนั้นจึงมีค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งบริษัทต้องคำนึงถึง Cost-Benefit ด้วย

    ชญาพร คงสาคร 5202113097

    ตอบลบ
  15. Price Copper สามารถใช้Cloud computing ซึ่งเป็นเทคนิคการจัดการฐานข้อมูล
    โดยการที่ไม่ได้เก็บฐานข้อมูลไว้ที่Data warehouseที่ใดที่หนึ่ง แต่สามารถเรียกข้อมูลมาใช้ได้เสมือนว่าข้อมูลนั้นอยู่บนฐานข้อมูลของเราอยู่เเล้ว โดยให้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานร่วมกัน เชื่อมโยงและแบ่งกันประมวลผล ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ร่วมประมวลผลหลายๆ เครื่องไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน แต่เชื่อมต่อกันผ่านระบบเครือ-ข่ายแบบกริด (Grid) คอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลในกลุ่มที่เราเรียกว่า Cloud นี้ อาจจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้มีระบบปฏิบัติการและทรัพยากรเหมือนกัน และหน้าจอของผู้ใช้งาน (User Interface) จะแสดงผลที่รวดเร็วตามความต้องการของระบบที่ร้องขอไป

    ข้อดี คือ มีความยืดหยุ่น หากในอนาคตมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของฐานข้อมูลได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการจัดการฐานข้อมูลใหม่ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากข้อมูลสูญหาย และยังสะดวกในการนำข้อมูลไปใช้

    โดยPrice Copper สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลโดยรวมระหว่างกัน เช่น ผู้บริหารสามารถบริหารจัดการข้อมูลของสาขาเเต่ละสาขาได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยังที่นั้นๆ ทั้งในเรื่องของต้นทุนสินค้า การสั่งซื้อ นอกจากนี้ Suppliers สามารถเข้าไปดูฐานข้อมูลนี้ได้ ทำให้บริษัทไม่จำเป็นต้องมีการจัดการด้านการสั่งซื้อเเละไม่ต้องกลัวว่าสินค้าจะขาด เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านการสั่งซื้อเเละยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เพราะSupplierจะสามารถเตรียมสินค้าไว้ได้ก่อนที่สินค้าจะหมด นอกจากนี้ยังทำรู้ให้้Demand และ Supply ในตลาดซึ่งจะช่วยในการวางแผนด้านการตลาดต่อไป

    นอกจากนี้เทคนิคนี้ยังสามาถจัดการในเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่ายของเเต่ละสาขา เพราะสามารถรู้ข้อมูลรายได้เเละค่าใช้จ่ายทั้งระบบเเละเป็นข้อมูลที่อัพเดต ซึ่งจะช่วยในการบริหารจัดการร้าน เเละแม้ฐานข้อมูลจะมีขนาดใหญ่ขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเพิ่มฐานข้อมูลให้ใหญ่ขึ้น ทั้งยังมีความรวดเร็วในการประมวลผลให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน

    ตอบลบ
  16. เพิ่มเติมประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ระบบการควบคุมภายใน (Internal Control) ของบริษัท ซึ่งสามารถประยุกต์นำ IT มาใช้เพื่อให้เกิดกระบวนการควบคุมภายในที่มีประสิทธิผลได้ หากพิจารณาดู Business Process ของPrice chopper จะเห็นได้ว่า ในขั้นตอนของการรับสินค้าเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่อาจเกิดความผิดพลาดทั้ง Human Error และ Fraud ได้ แม้ว่าในการพิจารณาสั่งสินค้าจะนำระบบ IT ที่มีการ interface ข้อมูลระหว่างบริษัทและSupplier มาใช้ แต่ในการรับสินค้าจาก Supplier ยังจำเป็นต้องมีขั้นตอนการตรวจรับเพื่อยืนยันความถูกต้องของปริมาณสินค้า ซึ่งในทีนี้ Price Chopper ยังคงใช้วิธีการดั้งเดิม คือการตรวจนับโดยเจ้าหน้าที่ Warehouse ซึ่งอาจเกิด Human error หรือ fraud ขึ้นได้ ดังนั้นขั้นตอนนี้จึงยังปรากฏความเสี่ยงที่อยู่ การใช้ระบบ IT เข้ามาแก้ไข น่าจะสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่า เช่น การติดตั้ง RFID ซึ่งจะทำให้การตรวจนับเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น

    อย่างไรก็ตามการติดตั้งระบบITเพื่อใช้ในการตรวจรับสินค้า อาจต้องพิจารณาโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก สินค้าที่ควรนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ควรเป็นสินค้าที่มีการตรวจนับยาก มีมูลค่าสูง หากสินค้าเป็นสินค้าประเภทอุปโภค บริโภคธรรมดา มีมูลค่าต่อชิ้นไม่สูงนักการติดตั้งระบบ IT ต่างๆเพื่อ trackสินค้าแต่ละชิ้นอาจไม่มีความจำเป็น และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนเพิ่มมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนในการติดตั้งที่ตามมา

    ดารินทร์ อิงควงศ์ 5202113147

    ตอบลบ
  17. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  18. เห็นด้วยกับ Thanit Apichetyotha และ chaya_bigvoice ที่เสนอให้มีนำ ERP มาใช้ เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงระบบต่างๆ ภายในบริษัทให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล รวมไปถึงการลดต้นทุน แต่การนำ ERP มาใช้นั้นก็ควรพิจารณาถึงอุปสรรคต่างๆ ที่อาจทำให้การประยุกต์ ERP มาใช้นั้นไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ดังนี้

    1.โปรแกรม ERP ส่วนมากมีราคาแพง ซึ่งคิดเป็นต้นทุนจำนวนมากสำหรับบริษัท ซึ่งถ้าหากไม่มีเงินลงทุนจำนวนมากก็อาจจะส่งผลต่อสภาพคล่องขององค์กรได้

    2.ความร่วมมือจากพนักงาน ในช่วงแรกของการนำ ERP มาใช้นั้นพนักงานในองค์กรอาจจะมีการต่อต้าน เนื่องจากจะต้องทำงาน 2 ครั้ง คือ ทั้งในระบบเก่า และ ERP ที่ทดลองใช้ใหม่ ซึ่งอาจทำให้พนักงานไม่เต็มใจที่จะทำงาน ส่งผลถึงผลลัพธ์ของงานที่ทำ

    3.โปรแกรม ERP มีความซับซ้อน จึงจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้พนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใจในการทำงานของ ERP ให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถใช้ ERP ได้อย่างถูกต้อง หากพนักงานป้อนข้อมูลที่ผิดพลาดลงไปเพราะความไม่เข้าใจอาจจะส่งผลต่อการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้

    4.การ Implement ระบบใช้เวลานาน โดยปกติแล้ว การนำ ERP ไปใช้นั้นจะใช้เวลา 1-2 ปี ในการปรับเปลี่ยนการทำงานจนเข้าที่ ซึ่งอาจทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ต้องการใช้ ERP เพราะเห็นผลการทำงานช้า ส่งผลต่อผลการปฏิบัติงานของตน

    5.เลือกใช้โปรแกรม ERP ให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรม ปกติแล้ว โปรแกรม ERP จะมีการพัฒนามาเพื่อให้สามารถทำงานได้กับทุกอุตสาหกรรม ซึ่งอาจทำให้การทำงานนั้นไม่เหมาะสมกับ Price Chopper จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกโปรแกรม ERP ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมของตนเอง

    ตอบลบ
  19. เพิ่มเติมจากความคิดเห็นของ Caedus ที่พูดถึงการนำระบบ IT มาใช้บริการจัดการด้านลูกค้า แต่ขยายจากเมุมมองของลูกค้าต่อยอดไปยังการนำระบบ IT มาใช้บริหารจัดการทางด้านการตลาดผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศที่เรียกว่า Marketing information system (MKIS) ในส่วนของการใช้ Marketing Decision Support System (MKDSS) ระบบสนับสนุนการตัดสินใจสำหรับกิจกรรมทางการตลาดที่ประกอบด้วย Information Technology, Marketing data และ Model ต่างๆ เพื่อพยากรณ์ผลจากการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดและสถานการณ์ที่แตกต่างกัน โดย MKDSS จะเป็นระบบที่นำ Software และ Hardware มาใช้เก็บข้อมูล วางระบบโดยใช้เครื่องมือทางสถิติ ตัวแบบ และเทคนิคการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อช่วยสนับสนุนการวางกลยุทธ์ทางด้านการตลาดของร้านค้าปลีกอย่าง Price Chopper เพื่อให้สามารถกำหนด Advertising Spending และส่วนผสมทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม
    โดย MKDSS จะแบ่งออกเป็นด้านต่างๆ ยกตัวอย่าง Decision Support System ที่เหมาะสมกับ Price Chopper คือ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางการตลาดด้านการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย เพื่อให้ Price Chopper สามารถจัดสรรงบประมาณระหว่างโปรแกรมการโฆษณาและการส่งเสริมการขายได้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การใช้โฆษณาร้านทาง Mass Media และให้คูปองส่วนลดร่วมกันในร้าน โดยมีการควบคุมระยะเวลาการส่งเสริมการขาย หลังจากเสร็จสิ้นแล้วจะมีการติดตามค่าใช้จ่ายเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับงบประมาณที่ตั้งไว้พร้อมประเมินประสิทธิภาพของโปรแกรมส่งเสริมการขาย

    ID 5202115431

    ตอบลบ
  20. เนื่องจาก Price Chopper นั้นตั้งใจใช้ Self-service checkout เพื่อลดจำนวนพนักงานและเพิ่มจำนวน line ในการคิดเงิน ซึ่งขั้นตอนของ self-service checkout นั้นมีถึง 4 ขั้นตอน จึงคิดว่าสามารถลดขั้นตอนและความยุ่งยากลดได้โดย
    - ในกรณีที่สินค้าไม่มีบาร์โค้ด ควรจะมีการจัด package ของสินค้าให้มีปริมาณเป็นมาตรฐาน เพื่อที่จะสามารถติดบาร์โค้ดในการคิดราคาได้
    - เพื่อลดความยุ่งยากในการชำระเงิน Price Chopper อาจใช้ระบบ Smart card หรือบัตรที่ลูกค้าเติมเงินสดลงไปก่อน เมื่อชำระเงินลูกค้าสามารถตัดยอดที่ชำระจากบัตรได้เลย ทั้งนี้เพื่อลดความยุ่งยากของวิธีการชำระเงินและตัดปัญหาเรื่องเงินทอน

    นอกจากนี้ยังสามารถใช้ข้อมูลการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ เืพื่อเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าที่มี turnover ต่ำออกไป และเลือกสินค้าใหม่ๆ เข้ามาแทน เพื่อให้พื้นที่ในร้านสามารถสร้างรายได้ได้สูงสุด

    ตอบลบ
  21. เห็นด้วยกับ KaPongNom เกี่ยวกับระบบ VMI ที่จะช่วยให้ระบบการบริหารสินค้าคงเหลือนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสินค้าพร้อมขายอยู่ตลอดเวลา

    ขอเพิ่มเติมในส่วนของระบบ Self-Service Checkout ซึ่งในปัจจุบันนี้ระบบ internet ได้ถูกใช้อย่างกว้างขวางมาก ซึ่งทาง Price Chopper อาจใช้ช่อง ทางออนไลน์เพิ่มเติม โดยให้ลูกค้านั้นสั่งสินค้าผ่านเว็บไซต์ของ Price Chopper แล้วชำระค่าสินค้าผ่านระบบออนไลน์เลย (เหมือน amazon หรือ Ebay) โดยลูกค้าจะได้รหัสมา1ชุดเพื่อนำมาใช้แทนการสแกนบาร์โคดของสินค้าทุกชิ้น ซึ่งจะลดปัญหาการนำสินค้าราคาถูกสแกนแล้วนำสินค้าราคาแพงใส่ถุงได้ จากนั้นจึงให้พนักงานตรวจว่าตรงกับใบเสร็จหรือไม่ วิธีนี้น่าจะช่วยลดความเสี่ยงจากการโกงให้กับ Price Chopper ได้ นอกจากนี้ลูกค้าเองก็ไม่ต้องรอคิวชำระค่าสินค้านานมากอีกด้วย หรืออาจะเพิ่มการส่งสินค้าตามที่ ~┢┦ảnaĐεқΛ~ εїз™ ได้เสนอไว้ด้านบนเพิ่มเติมด้วยครับ

    ตอบลบ
  22. ระบบไอทีซึ่ง Price Chopper ใช้อยู่เป็นระบบการบริหารร้านที่มีประสิทธิภาพดี แต่อาจจะเพิ่มเติมเครื่องมือการบริหารงาน ดังต่อไปนี้
    --ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ในชั้นวางของเพื่อใช้วัดปริมาณสินค้าคงเหลือ เป็นการเพิ่มความรวดเร็วสำหรับพนักงานที่มีหน้าที่เติมสินค้าในการดูข้อมูลเพื่อนำสินค้าไปเติมในชั้นให้เต็มอยู่เสมอ และเพื่อเป็นข้อมูลที่รวดเร็วทันใจสำหรับผู้จัดการฝ่ายสั่งซื้อในการวางแผนสั่งซื้อสินค้าจาก supplier โดยระบบนี้สามารถใช้ควบคู่กับ EDI เพื่อความรวดเร็วในกระบวนการสั่งสินค้าให้ทันเวลา
    --เพิ่มเครื่องมือวิเคราะห์หาปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัด(Economic Order Quality; EOQ) สำหรับสินค้าที่สั่งซื้อเป็นครั้งคราว โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบต้นทุนการสั่งซื้อสินค้ากับต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง เพื่อประหยัดเงินทุนสูงสุด
    --ติดตั้งจอดิสเพลโฆษณาสินค้าในบริเวณชั้นวางสินค้า และ บริเวณเคาท์เตอร์ชำระเงินก็เป็นจุดที่น่าสนใจ เนื่องจากจอดิสเพลที่ติดตั้งอยู่บริเวณชั้นวางสินค้า หากลูกค้าคนใดไม่สนใจสินค้าประเภทนั้นอยู่แล้วก็อาจเดินผ่านเร็วๆหรืออาจไม่เดินผ่านช่องประเภทสินค้านั้นๆเลยก็เป็นได้ แต่บริเวณเคาท์เตอร์เป็นจุดที่ลูกค้าทุกคนมีโอกาสได้ดูโฆษณา เนื่องจากระหว่างรอกระบวนการคิดราคาสินค้าสุทธิ ลูกค้าย่อมไม่มีอะไรทำก็จะต้องดูโฆษณาไปเพลินๆระหว่างรอแน่นอน ซึ่งจอดิสเพลที่ติดตั้งอยู่บริเวณเคาท์เตอร์อาจมีประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโปรโมชั่นต่างๆของทางร้านด้วย เครื่องมือนี้เป็นการเพิ่มการรับรู้ของลูกค้าได้ดี
    --ติดตั้งเครื่องสารพัดประโยชน์สำหรับให้ลูกค้าไปกดค้นหาดูว่าสินค้าที่ต้องการอยู่บริเวณใดของร้าน เป็นการประหยัดเวลาในการหาซื้อสินค้าของลูกค้าได้มาก และเครื่องนี้อาจบรรจุข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น สินค้าประเภทอาหาร ก็สามารถกดดูได้ว่าอาหารประเภทใด มีแคลอรี่เท่าไรบ้าง เหมาะสำหรับแม่บ้านรักสุขภาพ เป็นต้น
    --มีบัตรสมาร์ทการ์ดของร้าน ที่ลูกค้าจะต้องทำการเติมเงินเข้าไปก่อนและสามารถรูดบัตรในการชำระเงินค่าสินค้าทุกครั้งแต่ต้องไม่เกินวงเงินคงเหลือ ซึ่งบัตรเช่นนี้ ทางร้านจะได้รับเงินเป็นก้อนใหญ่ก่อนที่ลูกค้าจะทำการซื้อสินค้าจริง ก็อาจเป็นประโยชน์ในการนำเงินมาหมุนในการดำเนินธุรกิจก่อนเพื่อสภาพคล่อง( > < เกี่ยวรึป่าวหว่า) นอกจากนี้ บัตรสมาร์ทการ์ดควรจะเก็บข้อมูลการซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละรายด้วย โดยใช้ควบคู่กับเครื่องสารพัดประโยชน์(ย่อหน้าก่อนหน้า) ในการนำบัตรไปสแกนที่เครื่องสารพัดประโยชน์ แล้วเครื่องจะบอกโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ลูกค้าซื้อประจำหรือเคยซื้อ หรือสินค้าที่สามารถใช้ประโยชน์ควบคู่กันได้ เป็นการส่งเสริมการขายที่ดี

    ตอบลบ
  23. ลักษณะของการจับจ่ายใช้สอยในปัจจุบันเน้นหลักในเรื่องของความสะดวกสบายของลูกค้าและเนื่องจากในปัจจุบันกระแสของเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและมีการใช้งานเป็นวงกว้าง แนวคิดการทำซุปเปอร์มาร์เก็ตบนมือถือก็เป็นแนวคิดหนึ่งที่ Price Chopper น่าจะทำการลงทุนในเทคโนโลยีนี้ เพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์เป็นทำการย่อขนาดซุปเปอร์มาร์เกตให้เล็กที่สุดและใกล้กับลูกค้ามากที่สุดด้วยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ถึงที่สุด

    เห็นด้วยกับ chonchanok ในการสร้าง application สำหรับ smartphone/tablet ของ Price Chopper เพื่อเป็นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เช่น การส่งรายละเอียดสินค้า โปรโมชั่นหรือโฆษณาสินค้าใหม่ต่าง ๆ นอกจากนี้ applicationดังกล่าวควรให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นติชมคุณภาพสินค้าหรือบริการด้วย เพื่อเป็นการตรวจสอบ feedback

    นอกจากเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้า access กับกิจการได้ง่ายแล้ว Price Chopper ควรคำนึงถึง การทำให้ลูกค้าประทับใจในการบริการเพื่อที่จะกลับมาซื้อสินค้าอีก ดังนั้น Price Chopper ควรมีซอฟแวร์ในการจัดการ CRM และการจัดเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำโดยการแนะนำสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อไปในอดีต การนำเอาข้อมูลใน database ของลูกค้าแต่กลุ่มมาจัดทำโปรโมชั่นต่าง ๆ และส่งให้ลูกค้าทราบโดยตรงผ่านทางโทรศัพท์มือถือ การจัดทำ e-coupon การส่งคูปองส่วนลดที่ส่งผ่านโทรศัพท์มือถือ และ กิจกรรมส่งเสริมการขายอื่น ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าในสังคมออนไลน์

    ตอบลบ
  24. เห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นเกี่ยวกับการใช้ application ของ smartphone ซึ่งตอนนี้ ก็มีการสร้าง application ที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้านักช้อปทั้งหลายโดยตรงซึ่งน่าจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าหรือกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นซึ่ง application นี้ชื่อ Shopper-Shopping List ซึ่งประโยชน์คือการสร้างความสะดวกในการจับจ่ายซื้อของที่เพิ่มขึ้นโดยมีประโยชน์ต่างๆ เช่น การดึงข้อมูลราคาสินค้าหรือโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ที่ร้านค้าจัดขึ้น และสามารถแชร์ให้กับเพื่อนๆได้ รวมถึงสามารถสร้างรายการสินค้าที่ต้องการหรือสินค้าที่ซื้อประจำๆ แล้วจะมีการแจ้งเตือนผ่านโปรแกรมหากมีโปรโมชั่นพิเศษเกิดขึ้น
    อย่างไรก็ดีการลงทุนในเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอย่าง Price Chopper หรือการลงทุนในเทคโนโลยีรูปแบบอื่นๆ ก็ควรจะต้องคำนึงถึงต้นทุนในการลงทุนทางเทคโนโลยีกับประโยชน์ที่จะได้รับในระยะยาวว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ด้วย

    ตอบลบ
  25. ขอเพิ่มเติมจาก Orakarn และ nkataii ในการทำตลาดผ่านโทรศัทพ์มือถือ ทั้งนี้เพิื่ื่อให้ได้ประสิทธิภาพและตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ดังนั้นจึงควรอาศัยฐานข้อมูลจากระบบ CRM เพื่อจัดส่งรายการและบริการต่างๆที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เนื่องจากลูกค้าบางรายอาจไม่ชื่นชอบและคิดว่าเป็นการรบกวนสิทธิส่วนบุคคล เช่น ส่ง SMS มาโดยยังไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น อาจจะส่งผลเสียต่อการให้บริการได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มต้นทุนในการทำการตลาดที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อย่างไรก็ตาม ควรอาศัยการสอบถามความคิดเห็นของลูกค้าประกอบการตัดสินใจ เป็นต้น

    ตอบลบ
  26. ระบบ IT ที่แนะนำให้ chopper ใช้ คือ RFID
    ซึ่งเพื่อนๆบางคนได้แนะนำไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การใช้ช่วยในเรื่องstock สินค้า การขนส่ง และPOS แต่การประยุกต์ใช้ RFID ที่จะเสนอ จะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า เพื่อสามารถเพิ่ม Volumn การขายของบริษัท เช่น
    - มีการติดระบบนำทางคล้าย GPS โดยให้จับสัญญาณจากTag ที่ตัวรับ สัญญาณจำพวก RFID ที่ตัวสินค้า ไว้ที่บริเวณรถเข็น โดยเมื่อลูกค้าต้องการซื้อสินค้าชนิดใดก็สามารถป้อนข้อมูลให้หน้าจอนั้นแสดงแผนที่นำทางไปยังที่อยู่ของสินค้า โดยการทำเช่นนี้จะทำให้ลูกค้าสะดวกในการค้นหาสินค้า และป้องกันปัญหาการหาสินค้าไม่เจอ
    - จากนั้นเมื่อลูกค้ามีการหยิบสินค้าออกจากชั้นวาง หากมีการติดชิปไว้ที่สินค้าแล้ว บริษัทสามารถส่งข้อมูลไปยังแผนก Inventory เพื่อให้รู้ว่ามีลูกค้ามาหยิบสินค้าออกไปแล้ว เพื่อเพิ่มความมีประสิทธิภาพในการควบคุมระดับของสินค้าคงเหลือ
    Note : ระบบนี้มีการใช้โดย Extra Future Store ซึ่งเป็น supermarket ในเยอรมนีแล้ว

    ตอบลบ
  27. มีความเห็นว่า Price Cropper ควรใช้ระบบไอทีกับการทำ ERP เพราะ จะช่วยเชื่อมโยงระหว่างการจัดซื้อ จัดจ้าง การผลิต และการขายได้อย่างดี ช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการองค์กร ดังที่หลายๆคนได้กล่าวไปแล้ว นอกจากนั้นยังเห็นว่าการนำไอทีมาใช้กับการบริหารจัดการสินค้า เป็นสิ่งที่ควรกระทำเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามดิฉันมีความเห็นเพิ่มเติมว่าสำหรับการบริหารจัดการสินค้านั้น การนำไอทีมาใช้เพียงแต่กับการจัดการเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัด(Economic Order Quality; EOQ) น่าจะเป็นการไม่ค่อยเหมาะสมหรือคุ้มค่ามากนัก ควรจะนำมาใช้กับการวิเคราะห์เพื่อหาการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า (Forcast Demand) ด้วยจะเป็นการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการสินค้าเช่นเดียวกัน อีกทั้งการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้านั้น นับว่าเป็นกิจกรรมที่จะสร้างผลกำไรหรือทำให้บริษัทขาดทุนในการดำเนินกิจการได้ การคาดการณ์ล่วงหน้าจะช่วยให้บริษัทสามารถกำหนดทิศทางในการดำเนินงานว่าจะผลิตสินค้าเท่าไหร่ หรือต้องเตรียมบุคลกรไว้มากน้อยเพียงใดในอนาคต จะเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับ Price Cropper ได้อย่างมากทีเดียว นอกจากนั้นอาจนำมาใช้กับการวิเคราะห์ระบบเติมสินค้าบนชั้นแสดงสินค้าให้เต็มอย่างต่อเนื่อง (Continuous replenishment)เพิ่มเติมด้วยก็จะเป็นการบริหารจัดการสินค้าและเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก

    ตอบลบ
  28. กิจการ Supermarkets นั้น เรื่องของ Inventory เป็นสิ่งสำคัญ จึงอาจนำ IT ประเภท RFID มาประยุกต์ใช้กับ Price Chopper เนื่องจากสามารถใช้ได้ตั้งแต่ขั้นตอนของการรับสินค้าจาก Suppliers การจัดเก็บสินค้า ไปจนถึงการขายสินค้าออกไป เพื่อขจัดปัญหาการฉ้อโกง และ Human Error ได้
    ส่วนในเรื่องของการตลาด ผมก็เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นข้างต้นเกี่ยวกับ Application on Mobile and Social Network ครับ

    Panya Y. 5202112651

    ตอบลบ
  29. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  30. 1. สำหรับ Item ที่เป็นพวกเบเกอรี่หรือสินค้าที่ไม่มีบาร์โค้ดนั้น เห็นด้วยกับ hbussarin ว่าควรจะมีการจัด package ของสินค้าให้มีปริมาณเป็นมาตรฐาน เพื่อที่จะสามารถติดบาร์โค้ดในการคิดราคาได้ เพราะถ้าหากใช้การโชว์สินค้าผ่าน Overhead camera แล้วให้ lane supervisor เป็นคนใส่ราคาที่เหมาะสม จะทำให้เกิดความล่าช้าได้ เพราะ Supervisor 1 คนดูแลถึง 4 Self-service หากผู้ซื้อซื้อสินค้นที่ไม่มีบาร์โค้ดพร้อมๆกันทั้ง 4 เลน จะยิ่งทำให้เกิดความล่าช้ามากขึ้นไปอีก

    2. ใช้ระบบรหัสสมาชิกในการชำระเงินสำหรับผู้ซื้อที่เป็นบริษัท มีการซื้อสินค้าจาก Price Chopper เป็นประจำ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าในปริมาณครั้งละมากๆ คือ เวลาชำระเงินก็กดใส่เป็นรหัสสมาชิก ระบบก็จะบันทึกยอดซื้อไว้ตามรหัสสมาชิก แล้วนำไปเรียกเก็บเงินทีเดียวในตอนสิ้นเดือน

    3. ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ไว้ที่ Shelf สินค้า จะช่วยให้ทราบปริมาณสินค้าที่เหลืออยู่บน Shelf และเมื่อสินค้าเหลือน้อยลง พนักงานก็จะสามารถมาเติมสินค้าได้ โดยไม่ต้องเดินตรวจตราด้วยตนเอง และลดปัญหากรณีที่ลูกค้าไม่พบสินค้าบน Shelf ที่ทำให้ลูกค้าต้องลำบากในการสอบถามหาสินค้า ซึ่งอาจสร้างความไม่พึงพอใจให้กับลูกค้าได้

    4. นำระบบ Check latest prices and stock availability มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และป้องกันการเดินทางเสียเที่ยว

    5. ทำ Catalog online สำหรับให้ลูกค้าทราบถึง โปรโมชั่นการลด แลก แจก แถมในขณะนั้นๆ โดยอาจจะส่งไปยังอีเมลล์ตามข้อมูลสมาชิก หรือใช้ Social network ต่างๆ เช่น Facebook ตามที่มีผู้เสนอมาข้างต้น

    6. ระบบคำนวณราคาสินค้าติดตั้งที่รถเข็น โดยอาจจะใช้การคำนวณตามบาร์โค้ด ซึ่งลูกค้าสามารถกำหนดราคาไว้ในเบื้องต้นว่า มีงบประมาณในการซื้อเท่าไหร่ แล้วเมื่อหยิบสินค้าใส่รถเข็นเกินงบประมาณนั้น ก็จะมีสัญญาณเตือนดังขึ้น เพื่อเป็นการควบคุมรายจ่ายให้อยู่ในงบประมาณที่ลูกค้าต้องการ

    7. ระบบที่ลูกค้าสามารถเลือกว่า ต้องการจะทำอาหารเมนูอะไร แล้วระบบจะบอกว่าการจะทำเมนูนั้นๆ ต้องมีส่วนประกอบใดบ้าง ผนวกกับการใช้ระบบ Navigator ที่ลูกค้าสามารถระบุได้ว่า ต้องการซื้อสินค้าชนิดไหน แล้วระบบ Navigator นี้ก็จะบอกว่าสินค้าที่ต้องการอยู่บริเวณใด ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเดินหาสินค้าเอง เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

    จากระบบต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น จัดเป็นระบบที่เอื้อประโยชน์ในด้านความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการกับ Price Chopper อีกในครั้งต่อๆไป ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของ Price Chopper เพิ่มมากขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม การนำระบบ IT ใดๆเข้ามาใช้ Price Chopper ควรคำนึงถึง Cost-Benefit ที่จะได้รับด้วยว่า มีความคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่

    Jiraporn P. 5202112743

    ตอบลบ
  31. เห็นด้วยกับการนำระบบ online shopping มาใช้งาน โดยใช้customer Integrated Systems(CIS)ให้ลูกค้าสามารถที่จะป้อนข้อมูลรายการสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ ประมวลผลค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าสินค้าได้ทางระบบ online ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายในการจับจ่ายมากขึ้นและขยายช่องทางด้านการจัดจำหน่าย

    นอกจากนี้ด้วยความที่ price chopper เป็น supermarket ที่มีสาขาจำนวนมาก จึงน่าจะมีการสร้างฐานข้อมูลส่วนกลาง พร้อมใช้งานสำหรับผู้บริหารเพื่อใช้ในการวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจ โดยการรวบรวมข้อมูลในเรื่องของประเภท/ชนิดสินค้าที่จำหน่าย ยอดขายสินค้า ลักษณะของลูกค้า ฯลฯ ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ที่สาขาของ price chopper ตั้งอยู่ เพื่อสะดวกในการแสดงผลและเรียกค้นข้อมูลได้รวดเร็วถูกต้องง่ายต่อการประมวลผล พร้อมสำหรับการนำไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อวางแผนทางด้านการตลาด การจัดซื้อสินค้า การขนส่ง และการดำเนินงานในส่วนงานหลักต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในส่วนของการจัดการเรื่อง inventory นั้น RFID มีความเหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ เนื่องจากทำให้สามารถติดตามรายละเอียดของสินค้าได้ เช่น การนับจำนวนสินค้า การระบุตำแหน่งของสินค้า ซึ่งจะสะดวกในการจัดการคลังสินค้า รวมไปถึงการขนส่งสินค้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย

    ตอบลบ
  32. จากการที่ Price Chopper ต้องการใช้ระบบ IT เข้ามาช่วยในการลด Cost ต่างๆทีเกิดและเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น นอกจากที่มีการใช้ระบบ EFT/POS Self-service checkout EDI แล้ว สิ่งที่ยังสามารถนำ IT เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อลดต้นทุนหรือเพิ่มรายได้ให้เพิ่มขึ้นอีกคือ
    1.ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ เช็คราคาสินค้า และจ่ายค่าสินค้าได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ผ่านทางมือถือ/Tablet phone โดยมีระบบITการจัดส่งสินค้าที่มีการวิเคราะห์เส้นทางการจัดส่ง ทำให้การจัดส่งสินค้าใช้เวลาและระยะทางที่สั้นที่สุดและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
    2.สินค้าเดิมที่ไม่มีระบบ Bar Code ควรจัดทำ Package ให้มีระบบบาร์โค้ด เพื่อลดขั้นตอนในการชำระเงินแบบ Self-Service
    3.เนื่องจากมีสินค้าเพียง 30% ที่ใช้ระบบ EDI Price Chopper สินค้าที่ไม่สามารถทำ EDI ได้ ก็ควรมีระบบ EOQ เพื่อวิเคราะห์ปริมาณการสั่งซื้อหรือปริมาณที่ผลิตเองอย่างเหมาะสม เพื่อลดต้นทุนที่เกิดจากการเก็บรักษาดูแลสินค้า

    ตอบลบ
  33. เพิ่มเติมนะครับ ระบบขนส่งที่ใช้เป็นระบบ ITS (Intelligent transportation system และ GIS (Geographical Information System)ซึ่งสามารถผนวกเข้ากับระบบ GPS ที่ใช้ในรถยนต์ได้

    ตอบลบ
  34. จากการที่บริษัทยังคงมีการเก็บรวบรวมสินค้าเข้ามาในคลังสินค้าของบริษัทเองอยู่อีกส่วนหนึ่ง จึงเห็นว่า Price Chopper ควรใช้ระบบ warehouse management systems (WMS) มาใช้งานเพื่อบริหารปริมาณสินค้าคงคลังให้การรับและกระจายสินค้าเป็นไปอย่างสมดุล เพื่อให้ Price Chopper แต่ละสาขาที่รับสินค้าจากคลังสินค้าหลักของบริษัทมีสินค้าเข้ามาอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ระบบกระจายสินค้าผ่านคลังสินค้าสมควรดำเนินการควบคู่ไปกับการใช้ระบบโลจิสติกด้านการขนส่งสินค้า เพื่อให้มีต้นทุนการขนส่งที่ต่ำที่สุด โดยอาจเชื่อมโยงรถบรรทุกสินค้าเข้ากับระบบการจราจรเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เกิดอุุบัติเหตุได้ ซึ่งแนวคิดคลังสินค้าและการขนส่งนี้สมควรปรับใช้ควบคู่กับแนวคิดของ supply chain management ที่มุ่งให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลได้ทั่วถึงทั้งองค์กร โดยอาจใช้แนวคิด ERP ตามที่มีการเสนอในความคิดเห็นข้างต้น

    อีกประเด็นหนึ่งที่เห็นว่าสามารถปรับปรุงได้คือ บริษัทสมควรขยาย EDI ขยายเพิ่มเติมจากเดิมที่ใช้เพียง 30% เพื่อให้ข้อมูลเใช้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นซึ่งจะช่วยลดต้นทุนลงได้ อีกทั้ง EDI ที่บริษัทกำลังใช้อยู่ก็ควรเปลี่ยนเป็นระบบอิเล็คทรอนิคทั้งหมดตั้งแต่การสั่งซื้อจากในบริษัทจนถึงการจัดส่งสินค้าโดยที่มีระบบตรวจสอบสินค้าระหว่างขนส่งควบคู่ไป ทำให้สามารถลดขั้นตอนการยืนยันการขนส่งสินค้าโดยผู้ขนสินค้าและผู้รับมาซึ่งช่วยลด cost และ error ได้

    ID: 5202112867

    ตอบลบ
  35. จาก case study ผมเห็นว่าบริษัทได้มีการนำระบบ self service checkout เข้ามาใช้ ทำให้บริษัทควรจะนำระบบ RFID เข้ามาใช้ เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการบริการตนเอง อีกทั้งยังเป็นการลดความยุ่งยาก ซับซ้อนในการชำระเงินที่อาจก่อให้เกิดความผิดพลาดจากการบริการตนเองได้ด้วย ซึ่งผมเห็นด้วยกับความเห็นของ ~┢┦ảnaĐεқΛ~ εїз™ ครับ

    นอกจากนั้นผมมีความเห็นว่าควรนำระบบ IT เข้ามาช่วยในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า อย่างเช่น การเก็บระบบข้อมูลของลูกค้า ว่าชอบซื้อสินค้าชนิดไหน ภายในช่วงใด และราคาที่ซื้อแต่ละครั้งอยู่ในช่วงเท่าไร แล้วส่งข้อมูลสินค้าใหม่ๆที่ลูกค้าชอบซื้อผ่านทางอีเมล หรือโทรศัพท์มือถือโดยคำนึงถึงราคา และปริมาณที่ลูกค้าชอบซื้อในแต่ละครั้งด้วย เป็นต้น เพื่อเป็นการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าอีกทางหนึ่ง

    ตอบลบ
  36. เห็นด้วยกับการที่ Price Chopper นำ IT เข้ามาใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น EFT/POS, Self-Service Checkout, EDI และอื่นๆ เพราะมีประโยชน์ทั้งด้านความเร็ว ต้นทุน ข้อมูลลูกค้า (ซึ่งมีประโยชน์มาก เพราะจะได้นำมาเป็นข้อมูลในการทำการตลาดได้มากขึ้น) และอื่นๆอีกมากมาย แต่ยังมีหนทางที่ Price Chopper จะนำ IT เข้ามาใช้ได้อีกคือ

    - ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ของสินค้าที่ยังไม่มี Barcode อยู่ ให้มี เพื่อลด error และความรวดเร็วในการจ่ายเงินมากขึ้น

    - หรือ อาจจะใช้เทคโนโลยี RFID ดังที่ท่านอื่นๆได้แสดงความเห็นไว้ เข้ามาจัดการในการบริหาร Inventory ดังเช่น Walmart แต่ก็ควรคำนึงถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและความปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย

    - เนื่องจาก Networking กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนี้ จึงอาจจะใช้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น หรือจะใช้การส่งโปรโมชั่นหรือข่าวสารสินค้า หรือทำเว็ปให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเช็คโปรโมชั่น ได้ทุกเมื่อ

    ข้อควรระวังสำหรับ Price Chopper คือ เนื่องจากมีการทำธุรกรรมทาง electronics เยอะ การจัดการฐานข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรมีการ back-up และเตรียมแผนสำหรับเหตุขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นด้วย เพื่อที่การทำงานจะได้ไม่สะดุด นอกจากนั้นควรมีวิธีการป้องกันการถูกแฮค หรือมีโปรแกรม Anti-virus ที่มีประสิทธิภาพด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ แต่นอกจากจะป้องกันจากบุคคลภายนอกแล้ว บุคคลภายในก็เป็นสิ่งสำคัญ อาจจะมีการจำกัดการเข้าถึง หรืออำนาจในการเปลี่ยนแปลงเอกสารด้วย เพื่อป้องกันการทุจริต เช่น การยักยอกสินค้าคงเหลือ หรืออื่นๆเป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Nature ของเทคโนโลยีมักจะเปลี่ยนแปลงเร็วและมาพร้อมความเสี่ยงอยู่เสมอ ดังนั้น Price Chopper จึงควรคำนึงถึง cost และ benefit ให้ดีก่อนที่จะดำเนินการใดๆด้วย

    ตอบลบ
  37. หลังจากที่ได้ศึกษา case study ของ Price shopper ซึ่งได้นำระบบ IT เข้ามาประยุกต์ใช้ในกระบวนการดำเนินงานของกิจการ ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกระบวนการอาจต้องใช้บุคลากร พนักงาน ในองค์กรเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ดังนั้นจึงอาจเกิดปัญหาด้าน Human Error และ fraud เหมือนที่ Da_Lynne กล่าวในข้างต้น ดังนั้นจึงควรมีระบบการควบคุมภายในที่เหมาะสม เช่น อาจจะ rotate ส่วนงาน ไม่ให้พนักงานทำงานด้านนี้นานจนเกินไป เพราะจะเกิดความคุ้นเคย จนรู้ช่องโหว่ของระบบ หรืออาจจะในบุคคลจากภายนอกองค์กรมาช่วยในการวางระบบการควบคุมภายใน เป็นต้น

    นอกจากนี้ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดในกับลูกค้า กิจการอาจ ติดตั้งระบบ A Business Intelligence เหมือนที่ Caedus กล่าวไว้ ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยสร้าง Brand royalty กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ(Repurchase) สุดท้ายแล้วก็จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการได้อย่างยั่งยืน

    ธรากร หทัยเจริญลาภ 5202113113

    ตอบลบ
  38. เห็นว่า Price Chopper ควรมีหน้าเวปไซต์ของตัวเองซึ่งจะเป็นเสมือนแคตตาล็อคสินค้าให้ลูกค้าสามารถเช็คดูว่ามีสินค้าอะไรบ้าง ราคาเท่าไร รวมถึงโปรโมชั่นในขณะนั้น ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าโดยที่ทำให้ลูกค้าสามารถ list รายการสินค้าที่ตัดสินใจว่าจะซื้อก่อนไป เพื่อที่ว่าเมื่อไปถึงแล้วก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินเลือกดูสินค้าอื่นๆอีก อีกทั้ง ในปัจจุบันผู้คนใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น รวมไปถึงการทำธุรกรรมออนไลน์ ดังนั้น อาจมีลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่อยากเดินทางไปซื้อสินค้าเอง ดังนั้น Price Chopper ควรมีระบบการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอีกทางหนึ่งและสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า

    นอกจากนี้ สื่อ Social Network เป็นสื่อที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ดังนั้น Price Chopper จึงอาจมีสื่อ facebook เพื่อเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น ว่าตอนนี้สินค้าใดลดราคาเป็นพิเศษบ้าง สินค้าใดซื้อ 1แถม 1 รวมถึงจำนวนแต้มที่จะได้รับจากการซื้อสินค้าชนิดนั้น เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มแรงจูงใจลูกค้าให้ซื้อสินค้า อีกทั้งการมีสื่อชนิดนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรที่จะยัดเยียดการโฆษณามากจนเกินไปเพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีต่อบริษัทได้

    ตอบลบ
  39. IT ที่ Price Chopper จะนำมาใช้เพิ่มเติมมีวัตถุประสงค์หลัก 2 อย่าง คือ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ เพิ่มยอดขายให้แก่บริษัท
    โดย IT ที่แนะนำให้ Price Chopper ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่บริษัท คือ ERP (Enterprise Resource Planning) เป็นระบบบริหารทรัพยากรองค์กร ใช้ในการจัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรต่างๆ ขององค์กร โดยเชื่อมโยงระบบต่างๆ ขององค์กรเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ระบบงานทางด้านบัญชีและการเงิน ระบบงานทรัพยากรบุคคล ระบบบริหารการผลิต รวมถึงระบบการกระจายสินค้า โดยที่มีฐานข้อมูลเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ที่เดียวกัน เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนของข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรข้อมูลให้ได้ประโยชน์สูงสุด การใช้ ERP จะช่วยให้แผนกต่างๆของ Price Chopper มีความรวดเร็วในการทำงาน มีต้นทุนในการจัดเก็บเอกสารรวมถึงขั้นตอนการดึงข้อมูลมาใช้ลดลง และทำให้การผลิต การจัดซื้อ และการขายมีความราบรื่นหรือมีข้อผิดพลาดลดลง เนื่องจากทุกคนในบริษัทใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน
    สำหรับ IT ที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัทนั้น Price Chopper น่าจะนำบริการ Online Shopping มาใช้ อาจทำโดยการเปิดเวบไซด์ของบริษัทเอง ซึ่ง Online Shopping นั้นเหมาะสำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่ค่อยมีเวลามาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าหรือมีที่อยู่ที่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ให้สามารถเลือกซื้ออยู่ที่บ้านผ่านอินเตอร์เนตได้ การทำOnline Shopping นั้นมีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับการเพิ่มช่องทางการขายโดยเปิดสาขาใหม่ โดย Price Shopper อาจมีการโฆษณาผ่านทาง Facebook , Twitter หรือติดป้ายตามเคาท์เตอร์จ่ายเงินของร้านเกี่ยวกับเวบไซด์ของ Price Shopper เพื่อให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้า
    เนื่องจาก Price Shopper นำ IT มาใช้ช่วยในการดำเนินงาน Price Shopper ก็ควรมีระบบการควบคุมที่ช่วยป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลจาก IT เหล่านี้ด้วยเช่นกัน โดย IT ที่จะนำมาใช้ในการควบคุมเช่น การกำหนด User ID ของผู้ที่มีสิทธิเข้าถึงฐานข้อมูล และกำหนดสิทธิในการเข้าถึงระบบงานแต่ละส่วน

    Vasinee T(5202113022)

    ตอบลบ
  40. ระบบIT ที่น่าสนใจที่จะมาช่วยเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้ของ Price Chopper รวมถึงลคความเสี่ยง การทุจริตจากความผิดพลาดจากการไม่รัดกุมของระบบ และเพื่อการนำเสนอสินค้าให้ได้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น ได้แก่
    ระบบRFID (Radio Frequency Identification) เพื่อลดความเสียหายจากการสับสนจากการระบบ Self-Service Checkout และยังทำให้เกิดความรวดเร็ว สะดวกต่อการคิดต่าสินค้าและบริการอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีต้นทุนจากการทำ Tag และตัวอ่านข้อมูล (Reader หรือ Interrogator) ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบไร้สาย (Wireless)อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
    ระบบ Customer Relationship Management System เพื่อการสร้างสัมพันธ์ที่ดียาวนานกับลูกค้า ส่งผลให้เกิดยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังได้ฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อจะได้นำเสนอสินค้า และบริการได้ตรงกับสิงที่ลูกค้าต้องการในช่วงนั้น นอกจากนี้การทำ Social Network (Facebook Twitter Website)ต่างๆเพื่อการสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และบริษัทส่วนมากกำลังทำอยู่เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่มีการเข้าถึงinternet มากยิ่งขึ้น
    นอกจากนี้ระบบ On-line shopping ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งทีน่าสนใจของ Price Chopper ที่จะช่วยกระจายสินค้าให้ผู้บริโภคได้หลายช่องทางมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการสร้างระบบ ต่อยอดขายที่สร้างในช่องทางนี้

    ตอบลบ
  41. เห็นด้วยกับ napatsawan ที่ว่าให้นำ Smart Card เข้ามาใช้โดยที่ให้ทำเป็นเหมือนบัตรเงินสดที่ลูกค้าสามารถเติมเงินเข้าไปในบัตรก่อน แล้วนำบัตรใช้แทนเงินสดได้เลย โดยอาจจะจูงใจลูกค้าให้ใช้บัตรนี้โดยอาจจะมีส่วนลดให้ทุกครั้งที่ใช้บัตรนี้ในการชำระเงิน และควรหาวิธีจูงใจลูกค้าที่ชอบใช้บัตรเครดิตหรือการชำระเงินแบบอื่นๆ มาใช้บัตรนี้เพราะว่าการชำระเงินด้วยวิธีอื่นนอกจากเงินสดนั้น นอกจากจะทำให้ Price Chopper ต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้การชำระเงินล่าช้ายิ่งขึ้นด้วยสังเกตุได้จากเวลามีคนใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน เป็นต้น และบัตร Smart Card ก็ควรจะเก็บข้อมูลของลูกค้าทุกอย่างไว้ ซึ่งอาจจะทำให้บัตรนั้นเป็นเสมือนบัตรสมาชิกไปในตัว ซึ่งปัจจุบันร้านค้าที่ใช้บัตร Smart Card เป็นเสมือนบัตรสมาชิกและสามารถใช้เป็นบัตรเงินสดได้ ได้แก่ CP Fresh Mart จะเห็นว่าการชำระเงินนั้นง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

    แต่เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการชำระเงินก็ควรจะมี Counter เติมเงินบัตรแยกต่างหากจาก Counter ชำระสินค้าด้วย ซึ่งอาจจะทำเป็นตู้เติมเงินอัตโนมัติ เป็นต้น

    ชิงชัย ฉันธนารัตน์ 5302110126

    ตอบลบ
  42. ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับความเห็นที่พูดถึงเกี่ยวกับการใช้ Application ของ Smartphone เนื่องจากปัจจุบันมือถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในชีวิตประจำวัน และทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และข้าพเจ้าเชื่อว่า อีกไม่นาน ผู้คนจะทำกิจกรรมทุกๆอย่างผ่านทางมือถือ เช่น ชำระค่าบริการ สั่งซื้อสินค้า เล่นเกมส์ ท่องเว็บ จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆก็ควรจะต้องคำนึงถึงต้นทุนในการลงทุน ว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ร่วมด้วย นอกจากนี้ การใช้ Social Network และการทำ Online Shopping ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
    แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ Price Chopper จะหาทางพัฒนาหรือลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆให้ดียิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรตระหนักถึงก่อน ก็คือ การรู้จักใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การนำระบบ IT เข้ามาช่วยในการติดต่อสื่อสาร และช่วยในการวิเคราะห์ Profile ของลูกค้าแต่ละราย เช่น การใช้ประโยชน์จาก IT เพื่อทำ CRM โดยเก็บข้อมูลของลูกค้า ว่าชอบซื้อสินค้าประเภทใด มักซื้อในช่วงเวลาใด ชอบโปรโมชั่นแบบไหน และราคาที่ซื้อแต่ละครั้งอยู่ในช่วงประมาณเท่าใด แล้วส่งข้อมูลโปรโมชั่นสินค้าที่ลูกค้าชอบซื้อหรือผ่านทางอีเมล หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

    นางสาวกาญจนา แซ่พ่าน 5202115068

    ตอบลบ
  43. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  44. Price Chopper ถือเป็นธุรกิจ Supermarket ขนาดใหญ่ ซึ่งการจัดการเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือ การวางแผนสั่งซื้อสินค้าจาก supplier การขนส่งสินค้าจากคลังสินค้าไปที่ร้านค้าเป็นเรื่องสำคัญ ควรใช้ระบบ IT ที่มีประสิทธิภาพเป็นระบบหลักในการทำงานเพื่อที่จะสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้องและนำมาวิเคราะห์คาดการณ์ยอดขายเพื่อปรับปรุงการบริหารงานได้อย่างสะดวกขึ้น ระบบ IT ที่ Price Chopper ใช้อยู่ไม่ว่าจะเป็น EFT/POS, EDI, Self-Service Checkout ถือว่าเป็นพื้นฐานการวางระบบที่ดีอยู่แล้วใน ฐานะที่ปรึกษาของบริษัทนี้ ดิฉันมีคำแนะนำเพิ่มเติมดังนี้

    การวางแผนจัดการสินค้า อยากแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ระบบ RFID เพื่อ track สินค้าที่กำลังถูกเคลื่อนย้ายจากคลังสินค้าหนึ่งไปอีกคลังสินค้าหนึ่ง หรือจาก supplier มายังคลังสินค้า เพื่อที่จะสามารถคำนวณจำนวนสินค้าคงเหลือได้อย่างถูกต้อง และบริษัทควรมีระบบที่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ supplier ต่างๆ เช่น ระยะเวลาการส่งสินค้า หรือ cost per transaction เพื่อที่จะได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุด

    นอกจากการใช้ระบบ RFID เพื่อ track สินค้าที่กำลังเคลื่อนย้ายแล้ว ยังควรนำระบบ RFID มาใช้ในคลังสินค้าและใน store เดิม Price Chopper ใช้ระบบบาร์โค้ดในการชำระสินค้า หากพัฒนามาใช้ RFID การคิดราคาสินค้าจะแม่นยำมากขึ้นและใช้เวลาน้อยลงเพราะไม่ต้องแสกนบาร์โค้ดทีละชิ้น และยังควรเชื่อมโยง RFID เข้ากับระบบการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับยอดขายและการใช้จ่ายของลูกค้าแต่ละคน เพื่อสามารถจัดโปรโมชั่นให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและคาดการณ์ความต้องการสินค้าแต่ละชนิดได้แม่นยำมากขึ้น

    การที่ Price Chopper สามารถวางแผนจัดการสินค้าคงเหลือ และคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นนั้น จะสามารถช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านการสั่งซื้อสินค้าการ supplier , ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าคงเหลือทั้งในคลังสินค้าและใน store นอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้วยังสามารถเพิ่มยอดขายให้กับ Price Chopper ได้อีกด้วย

    ID_5202113162

    ตอบลบ
  45. Price Chopper
    **เป้าหมายของการนำ IT มาใช้**
    -เพิ่มยอดขาย
    -เพิ่มการควบคุมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการติดตั้งสิ่งต่างๆ
    -ขยายธุรกิจไปในด้านการให้บริการทางการเงินเพื่อรับกำไรโดยตรง จากเดิมที่เปิดให้ธนาคารท้องถิ่นมาใช้พื้นที่
    **IT ที่นำมาใช้**
    - ติดตั้ง ATM และ POBs ของตนเอง
    - ติดตั้งระบบเชื่อมต่อที่จะส่งข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินไปยังสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง
    - EFT/POS: Electronic Funds Transfer at Point of Sale
    - Frequent Shopper Card บัตรสำหรับลูกค้าที่ซื้อบ่อย กึ่งบัตรสมาชิก
    * สำหรับชำระเงินผ่านระบบ ACH
    * สะสมแต้ม (Frequent Buyer Point)
    - Self Device Checkout
    *ใช้ Intel 80486 เพื่อรองรับระบบที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต (เครือ 486 ของ Intel)
    *เปิดเคาท์เตอร์รับชำระเงินแบ่งเป็นประเภทคือ รับเงินสด และรับการชำระประเภทอื่นๆ อาทิ บัตรเครดิต (ไม่รับเช็ค)
    - EDI: Electronic Data Interchange การแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ นำมาใช้กับการรับส่งข้อมูลสินค้าที่จะมาถึง อย่างไรก็ดี ยังคงมีการให้ผู้ขับรถนำส่งนับสินค้าร่วมกับเจ้าหน้าที่โกดังเพื่อทำการตรวจสอบจำนวนอีกครั้ง

    **คำแนะนำ**
    - ดังหลายความเห็นที่ผ่านมา จากเดิมที่ทางร้านมีบัตรสำหรับลูกค้าที่ซื้อบ่อยเพื่อใช้ชำระเงินและสะสมแต้ม ควรจะเพิ่มการทำ CRMS: Customer relationship management System เพื่อให้ระบบจัดเก็บข้อมูลการซื้อสินค้าของลูกค้า ทำความเข้าใจและนำเสนอข้อมูลสินค้าที่ลูกค้าสนใจได้ตรงจุดมากขึ้น รวมทั้งยังใช้ในการพยากรณ์จำนวนสินค้าที่จะสั่งเข้ามาเพิ่มเติมด้วย
    - ติดตั้งระบบ NFC: Near Field Communication (ตัวอย่างการใช้งาน smart-purse) เพื่อรองรับการชำระเงินจำนวนไม่มากสำหรับลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็ว ด้วยปัจจุบันมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภท Smart Phone มากขึ้นและมีแนวโน้มจะแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ (หรือในกรณีที่ระบบ ACH มีแนวโน้มจะลดการใช้งานลง อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนระบบบัตรสมาชิกให้เป็นระบบชำระเงินแบบ NFC เลยก็ได้)

    ตอบลบ
  46. ระบบ IT ที่จะแนะนำให้ Price shopper ใช้
    - บริษัทควรลงทุนให้มีระบบฐานข้อมูลกลาง (Central database) ขององค์กรที่สำนักงานใหญ่เพื่อให้ข้อมูลของแต่ละสาขาเป็นไปในทางเดียวกัน (Consistent) เพราะ Price shopper มีถึง 80 สาขา (ในกรณีศึกษา ไม่ได้กล่าวถึงฐานระบบข้อมูลกลาง) ข้อมูลในแต่ละสาขาควรจะเหมือนกัน ไม่ทำให้ลูกค้าสับสน เช่น หากทำ Sales promotion ทุกสาขา ราคาสินค้าของแต่ละสาขาควรจะเหมือนกัน เป็นต้น
    - นำระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System:DSS) มาใช้กับองค์กรให้มากขึ้น เช่น ควรนำข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าผ่าน Frequent shopper card มาใช้วิเคราะห์และทำนายยอดขายที่น่าจะเกิดขึ้นจากการทำ Promotion campaign เพื่อ Price shopper จะได้ตัดสินใจว่าควรทำ Promotion campaign หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้ Price shopper ตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ดีขึ้นและแม่นยำ
    - Price shopper ควรนำ Vendor-Managed Inventory system (VMI) เข้ามาใช้ ตามที่ KaPongNom ได้เสนอ เพราะ Price shopper ได้ลงทุนใน EDI อยู่แล้ว
    สำหรับ Technology ต่างๆ ที่เพื่อนๆได้เสนอมานั้น กระผมเห็นว่า ล้วนเป็นประโยชน์แก่องค์กรอย่างยิ่ง อย่างไรก็ดี Price shopper ควรคำนึงถึง cost/benefit ในระยะสั้นและระยะยาวก่อนที่จะนำมาใช้เสมอ


    ข้อแนะนำเพิ่มเติม
    -Price shopper ควรใช้ระบบ Electronic Data Interchange (EDI) ให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เช่น Price shopper ส่ง Copy of approved invoice ผ่าน EDI ให้แก่ supplier โดยตรง ไม่ควรโหลด Copy of approved invoice เข้า Hand-held unit ของ driver ในปัจจุบัน เพราะ Price shopper อาจมีความเสี่ยงที่เอกสารดังกล่าวอาจจะส่งไม่ถึงแผนกบัญชีของ Supplier อีกทั้งขัดกับวิธีการควบคุมภายในที่ดี เพราะ มูลค่าสินค้าบน invoice อาจสร้างแรงจูงใจให้ driver ขโมยสินค้าได้
    - เห็นด้วยกับ hbussarin ที่ควรจะมีการจัด package ของสินค้าให้มีปริมาณเป็นมาตรฐานในกรณีที่สินค้าไม่มีบาร์โค้ด

    ตอบลบ
  47. การนำระบบ IT ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในองค์กร ก็สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพในระบบการทำงาน และส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น ดังเช่น Price Chopper ซึ่งเป็นธุรกิจ Supermarket ที่ได้นำ IT มาใช้

    โดย EFT/POS ก็ช่วยส่งเสริมระบบการจ่ายเงิน เช่นการที่ Price Chopper ออก shopper card ของตัวเอง ซึ่งเราสามารถพบได้อย่างการใช้ central card คู่กับ Spot reward card ของห้าง central โดยประโยชน์ของมันก็คือทำให้เราทราบถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงผ่านทางพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้า ในขณะที่ ATM ก็ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการจ่ายเงินมากยิ่งขึ้น และลดต้นทุนได้เพราะการที่ลูกค้าใช้เงินสดจะเป็นวิธีที่ต้นทุนต่ำที่สุด และ do-it-yourself checkout system ก็ลดต้นทุนการบริการจากพนักงานได้

    ส่วน EDI ก็สามารถทำให้การสั่งซื้อ การจัดส่งสินค้า การออก invoice รวมถึงการจ่ายเงินเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดต้นทุนในการบริหารสินค้า ลด human error และ update จำนวน inventory ได้แบบ real time เป็นต้น

    ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Price Chopper จะนำ IT มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบ ลดต้นทุนและเพิ่มรายได้

    อย่างไรก็ตามองค์กรต่างๆ ที่จะนำ IT มาใช้ก็ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าของการใช้งานด้วย เพราะอย่างเช่น DIY checkout system จะนำมาใช้ในประเทศไทย ดิฉันคิดว่าอาจยังไม่ถึงเวลา เพราะค่าเรงพนักงงานยังคงถูกกว่าการ.ใช้เครื่องแบบนี้ ที่มีค่าติดตั้งสูงถึง $15000 และด้วยเพราะตัวมันเองยังไม่สมบูรณ์ 100% ดังนั้นหากจะนำมาใช้ก็อาจจะทำให้เสียเวลามากขึ้น และเกิดความรำคาญใจจนในที่สุดก็ใช้แบบเดิมๆ ก็เป็นได้

    นอกจากนี้ดิฉันเคยดูรายการทีวีแล้วเห็น supermarket ที่ต่างประเทศ ซึ่งมีคล้ายๆ personal shopper ที่เป็น computer มอบให้ลูกค้าแต่ละคนเวลาเข้ามาจับจ่าย โดยสามารถนำสินค้ามา scan แล้วทราบราคา รู้ข้อมูลประโยชน์เช่นมีรีวิวให้ทราบ มี promotion หรือมีสินค้าที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน รวมถึงสามารถคำนวณได้ว่ายอดรวมเป็นเท่าไร และหากผู้ซื้อต้องการซื้อก็เพียง scan และ confirm ได้โดยทันที แล้วพอจะออกจากห้างก็นำเครื่องนี้ไปคืนที่ counter จ่ายเงินอัตโนมัติ ซึ่งถึงแม้ว่าจะดิฉันจะชอบและรู้สึกว่ามีประโยชน์ต่อลูกค้าของ supermarket แต่ก็ควรวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมกับคนในประเทศนั้นๆ ด้วย เพราะถ้าเป็นที่ไทย เครื่องเหล่านั้นอาจจะหายไปอย่างรวดเร็ว และอีกอย่างก็คือต้นทุนต้องไม่คุ้มที่จะทำ

    ส่วนกรณีที่ Comment อื่นๆ ได้พูดถีง online shopping ดิฉันก็เห็นด้วยว่าเป็นการเพิ่มช่องทางให้เกิดความสะดวกสบายแต่สำหรับสินค้าบางประเภทอย่าง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ก็อาจจะไม่สามารถใช้ช่องทางนี้ได้ เพราะหากเป็นดิฉันคงต้องเลือกด้วยต้นเองเพื่อความสบายใจ ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับ RFID ดิฉันก็คิดว่ามีประโยชน์มากเช่นกัน และทำให้ดิฉันคิดว่าหากเป็นกรณีของบริษัทที่ประกอบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีชิ้นส่วนเล็กชิ้นส่วนน้อย แต่มูลค่าของแต่ละชิ้นส่วนมีมูลค่าสูงน่าจะเหมาะกับระบบนี้ด้วยเช่นกัน

    ID : 5202113071

    ตอบลบ
  48. ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่จะให้ Price Chopper ใช้ระบบ RFID มาใช้ช่วยในการดำเนินงาน ซึ่งระบบ RFID สามารถช่วยทั้งในส่วนของการจัดการคลังสินค้า เช่น ลดความเสี่ยงและความผิดพลาดในกระบวนการสั่งและรับสินค้าจาก Supplier, การขนส่ง, รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการคิดราคาสินค้า การชำระราคา ซึ่งจะช่วยทำให้การซื้อสินค้าและการจ่ายชำระเงินไปได้ความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงข้อดีอื่นๆที่มีเพื่อนบางคนได้เสนอไว้ด้วย เช่น เป็นการช่วยปรับปรุงการควบคุมภายใน ป้องกันการสูญหายของสินค้าทั้งจาก Error และ Fraud ซึ่งระบบ RFID นี้บริษัท/อุตสาหกรรมชั้นนำหลายแห่งได้มีการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากมาย เช่น WallMart, Boeing เป็นต้น

    อย่างไรก็ตามในข้าพเจ้าอยากให้บริษัทคำนึงถึงข้อจำกัดของระบบ RFID นี้ รวมไปถึงความสามารถของบริษัทเองที่จะนำระบบ RFID นี้มาใช้ เนื่องจากระบบนี้มีต้นทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นการจะนำมาใช้ควรพิจารณาถึง ต้นทุนที่เสียไปกับประโยชน์ที่จะได้รับ (Cost-benefit) อย่างละเอียดรอบคอบด้วย

    ในส่วนของการจัดการฐานข้อมูลเกี่ยวกับระบบการจัดการข้อมูลการตลาด ซึ่งครอบคลุมถึงในส่วนของการจัดการฐานข้อมูลของลูกค้า ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นไปในแนวเดียวกับ Dungchanok ในส่วนของการนำระบบ RFID (ซึ่งข้าพเจ้าแนะนำให้บริษัทตามที่กล่าวข้างต้น) เชื่อมโยงเข้ากับระบบการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับฐานลูกค้า ทั้งในส่วนของข้อมูลยอดขายและการใช้จ่ายของลูกค้าแต่ละคน เพื่อสามารถจัดโปรโมชั่นให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและคาดการณ์ความต้องการสินค้าแต่ละชนิดได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งอาจใช้ควบคู่ไปกับการเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าของลูกค้าผ่านการใช้ Smart Card (ซึ่งมีเพื่อนบางคนได้กล่าวบางแล้ว) ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าจะทำให้การจ่ายชำระเงินเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น และยังก่อให้เกิดผลดีต่อบริษัทให้แง่ของการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านการใช้จ่ายผ่านบัตรดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ทำให้ทราบพฤติกรรมการบริโภคได้ด้วย ซึ่งจะส่งผลดีในแง่ของการจัดการส่งเสริมการขายให้เป็นที่พอใจแก่ลูกค้าเป็นรายบุคคลได้ด้วย เช่น การให้ส่วนลดพิเศษแก่สมาชิกผู้ถือบัตร การสะสมแต้มแลกของรางวัล ฯลฯ ซึ่งระบบดังกล่าวสามารถเห็นได้ในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย เช่น การใช้จ่ายผ่าน Smart Purse ของร้านสะดวกซื้อ 7-11 และร้านค้าอื่นๆ เป็นต้น

    ข้าพเจ้าเห็นว่าหากบริษัทใช้ระบบ IT ตามที่ข้าพเจ้าได้แนะนำข้างต้นจะช่วยให้สามารถลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย (Cost-savings) ของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากการจัดการระบบต่างๆได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าซึ่งจะส่งผลให้เพิ่มยอดขายให้แก่บริษัท (Increased custom) ด้วย

    ตอบลบ
  49. ข้อเสนอแนะสำหรับ Price Chopper
    -ควรมีการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้ ว่าในการซื้อแต่ละครั้งของลูกค้านั้นมีสินค้าประเภทใดบ้าง โดยนำข้อมูลมาจาก Frequent shopper card เพื่อประโยชน์ของบริษัทในการจัดทำโปรโมชั่นต่างๆ หรืออาจจะมีการส่งของขวัญในเทศกาลใหญ่ๆ เช่นปีใหม่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความประทับใจ ให้แก่ลูกค้า
    -ควรใช้ RFID มาใช้จัดการกับตัว inventory ช่วยเพิ่มความสะดวก สามารถรู้ความเคลื่อนไหวของสินค้าแต่ละชิ้นได้ ทำให้ประหยัดเวลาในการจะเช็คว่าสินค้าในแต่ละวันลดลง หรือเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ตรงกับยอดขายหรือไม่ สินค้าในคงคลังมีปริมาณที่ลดลงถึงระดับที่จะต้องสั่งซื้อสินค้าเพิ่มหรือยัง ซึ่งจะทำให้ทาง Price Chopper มี carrying cost ที่ไม่สูง
    อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกในด้านการจ่ายเงินของลูกค้า ทำให้มีการบริการที่รวดเร็วขึ้น สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
    -ใช้ ERP เพื่อให้แต่ละแผนกขององค์กรสามารถรู้ข้อมูลของกันและกันได้ ทำให้รู้ว่าเมื่อไรที่สินค้าคงคลังใกล้จะหมด เพื่อที่แผนกสั่งซื้อจะได้จัดการสั่งสินค้าเลย โดยที่ไม่ต้องรอถามผู้ดูแลสินค้าคงคลัง

    วรกมล เกษมทรัพย์
    5202112537

    ตอบลบ
  50. โดยส่วนตัวหลังจากที่ได้อ่าน Case: Price Chopper แล้ว ส่วนที่ชอบมากที่สุด คือ Self-Service Checkout เนื่องจากคิดว่าการที่ บ. ยินดีที่จะใช้ระบบนี้เข้ามา แสดงว่ามีความเชื่อถือในตัวลูกค้าระดับหนึ่ง กล่าวคือ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อของ และจ่ายเงินได้ตามที่ตัวเองซื้อ ซึ่งผมคิดว่าเป็นการประยุกต์จากกรณีของปั๊มน้ำมัน ที่ลูกค้าให้บริการ จ่ายเงิน และรับเงินทอนด้วยตนเองเช่นกัน

    โดย Price Chopper ได้นำระบบ IT มาปรับใช้ได้ดีและมีการวางระบบการจัดการที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องการบรรจุถุง เพราะได้มีการออกแบบและใส่ข้อมูลปริมาณและขนาดของสินค้าภายในระบบ เพื่อให้ระบบสามารถจัดหาถุงที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้
    อีกประเด็นหนึ่ง คือ ระบบนี้ ยังรองรับสินค้าพวก Bakery ที่ไม่มี Barcode แปะไว้ที่สินค้า ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่ดี ที่ใช้กล้องเข้ามาช่วย แต่การทำเช่นนี้อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ เนื่องจากการมองผ่านกล้องอาจไม่เหมือนกับภาพจริง (ลูกค้าเอาสินค้า ใกล้ ไกล กล้องต่างกัน) ทำให้อาจเกิดข้อผิดพลาดในการคำนวณเงินได้

    อย่างไรก็ตามถึงแม้ระบบนี้จะดีเนื่องจาก ผู้บริโภคบางคนมีพฤติกรรมรำคาญพนักงาน Cashier (หรือเป็นความคิดเห็นส่วนตัว) ที่บางครั้งคำนวณเงินผิด หรือช้าเกินไป ก็จะได้เลือกใช้บริการนี้แทน ถึงกระนั้นการที่จะนำระบบดังกล่าวมาใช้กับประเทศไทย คงไม่ดีอย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อคนไทย แต่ผมเชื่อมั่นในคนไทยว่า ต้องมีการโกงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

    แมนรัตน์ กิตติวราภรณ์
    ID:5202115100

    ตอบลบ
  51. จากการศึกษากรณีศึกษาจะเห็นจะเห็นได้ว่า Price chopper ได้พยายามนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับปรุงระบบการทำงานของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งดิฉันมีข้อเสนอเพิ่มเติ่มดังนี้คือ
    1.การที่ Price chopper จัดให้มีระบบ customer self-service checkout นั้นเป็นความคิดที่ดีมาก เพราะจะช่วยบริษัทลดแรงงานคนและค่าใช้จ่ายลงไปไได้ แต่ระบบนี้น่าจะมีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย และไม่อยากที่จะต่อคิวยาว ซึ่งการที่ทางบริษัทเลือกนำระบบ POS โดยการให้ลูกค้าทำการแสกนยาร์โค้ดสินค้าที่ต้องการจะซื้อด้วยตนเอง แล้วนำใส่ถุงเองนั้น อาจจะเป็นการทำให้ลูกค้าเกิดความยุ่งยากและเสียเวลามากขึ้น เนื่องจากต้องทำการสแกนสินค้าที่ละชิ้น และมีโอกาสผิดพลาดสูงที่ลูกค้าจะไม่ได้สแกนสินค้าบางชิ้น ดังนั้นจึงอยากจะเสนอให้บริษัทนำระบบ RFID มาใช้มากกว่า โดยการติดชิปไว้ที่สินค้า แล้วระบบจะทำการสแกนสินค้าทั้งหมดให้เอง ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาำนำสินค้ามาสแกนบาร์โค้ดทีละชิ้นเหมือนระบบPOS ช่วยประหยัดเวลาให้ลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสในการที่ลูกค้าจะลืมคิดราคาสินค้าบางชิ้นออกไปได้ นอกจากนี้ในส่วนของสินค้าบางประเภทที่บริษัทไม่สามารถติดบาร์โค้ดได้ เช่น เบเกอรี่ ผัก ผลไม้ บริษัทอาจจะแก้ปัญหาโดยการแพ็คสินค้าให้มีบรรจุหีบห่อทีเรียบร้อยแล้วค่อยทำการติดบาร์โค้ดไปบนแพ็คเกจ
    2.สำหรับการที่บริษัทนำระบบ EDI มาใช้ในการจัดการระบบการติดต่อกับ supplier ถือว่าเหมาะสม เพราะระบบนี้จะช่วยลดระยะเวลาในการติดต่อ และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จะเป็นออกไปได้ ซึ่งบริษัทอาจจะเลือกนำระบบ ERP มาใช้แทนระบบนี้ก็ได้ เนื่องจากระบบ ERP จะช่วยเชื่อมโยงระบบการทำงานของทำฝ่ายเข้าด้วยกัน ช่วยลดปัญหาในเรืื่องความซับซ้อนของการทำงาน น้องจากนี้ระบบนี้ยังเป็นระบบที่ทำงานแบบ rea' time จึงสามารถช่วยให้บริษัทมีระบบการจัดการอย่างทันเวลาได้


    นารี มงคลเกียรติชัย
    5202112917

    ตอบลบ
  52. จากกรณีศึกษาข้าพเจ้าเห็นว่า
    1.บริษัทควรจะมีการพัฒนาระบบการขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชองทาง โดยจัดทำเป็นWebsite ที่คนสามารถชมและเลือกสินค้าได้ และมีการจ่ายชำระเงินโดยการตัดบัตรเครดิต ซึ่งจะเพิ่มช่องทางในการซื้อของลูกค้า โดยที่บริษัทสามารถลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรลงได้ด้วยเช่นกัน
    2.บริษัทควรมีการจัดทำระบบฐานข้อมูลลูกค้าโดยการมีบัตรสมาชิกที่จะจูงใจให้ลูกค้าสมัคร โดยถ้าลูกค้าเป็นสมาชิกแล้วเมื่อซื้อสินค้าจะได้รับส่วนลด ซึ่งจากการที่ลูกค้าเป็นสมาชิกทำให้เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าบริทจะสามารถจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อให้ทราบถึงความชอบของลูกค้าเพื่อนำมาใช้ในการทำCustomer Relation management และใช้ในการจัดทำโปรโมชั่นให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
    นายวรฐ ทรงฤกษ์ 5202112594

    ตอบลบ
  53. สำหรับ Price Chopper ที่นำระบบ IT ที่ทันสมัยเข้ามาเพื่อพัฒนาระบบของกิจการ สิ่งที่ควรคำนึงในกรณีศึกษานี้คือ
    1.Queing ในการใช้ระบบ POS อาจเกิดความล่าช้าขึ้นได้ง่าย ดิฉันเห็นด้วยกับระบบ RFID ที่เพื่อนๆได้แนะนำไว้เบื้องต้น ซึ่งยอกจากจะช่วยให้เกิดความรวดเร็วแล้ว ยังทำให้เกิดความแม่นยำมากขึ้น และป้องกันโอกาสที่จะก่อให้เกิดการโกงสินค้าซึ่งเป็นผลเสียกับบริษัท อย่างไรก็ดี การใช้ระบบใหม่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการติดตั้ง ซึ่งสิ่งนี้อยู่ในวิจารณญาณของบริษัทเป็นสำคัญ
    2.การประยุกต์ใช้ Internet ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการใช้ Social Network หรือ Website
    3. อาจนำเครื่องแสกนบาร์โค้ดเพื่อแสดงหรือคำนวณราคาสินค้ารวบยอดเบื้องต้นติดตั้งไว้ในที่ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
    4. การจัดทำฐานข้อมูลลูกค้า เนื่องจากระบบที่ Price Chopper ใช้ เอื้อต่อการจัดทำฐานข้อมูล เนื่องจากมีการแสกนรายการและราคาสินค้าเสมอ ทางร้านอาจทำบัตรสมาชิกที่เสนอโปรโมชั่น หรือสินค้าที่ใกล้เคียงกันเพื่อสร้างยอดขายต่อเนื่องและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า
    5. เพื่อให้ระบบสั่งซื้อมีความฉับไว ทางร้านควรจัดการระบบให้เป็นในลักษณะ Real time โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากการซื้อของลูกค้า ไปในระบบสินค้าคงคลัง เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบได้ในทันทีว่า มีสินค้าเหลืออยู่เท่าไร
    6. ในส่วนของสินค้าที่ไม่สามารถใช้ระบบบาร์โค้ดได้ ทางร้านควรค้นหาระบบอื่นที่จะสามารถนำมาลดภาระการใช้คนตรวจสอบภาพดังที่ใช้อยู่ อาจด้วยวิธีที่ซุปเปอร์มาร์เกตในไทยใช้่กับของสด นั่นคือการใช้เครื่องพิมพ์สติกเกอร์บาร์โค้ดที่ PoP ของสินค้าประเภทนั้น โดยให้ลูกค้าเลือกประเภท ยี่ห้อ จำนวนของสินค้า ที่เครื่องพิมพ์ และดึงเอาสติกเกอร์ซึ่งระบุบาร์โค้ดของสินค้าไว้ออกมาแปะลงบนสินค้า ซึ่งระบบนี้อาจต้องมีการประยุกต์ให้เขากับชนิดของสินค้าที่นำไปปรับใช้
    อย่างไรก็ดี ทุกสิ่งที่ได้เสนอแนะไปนี้ ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และที่สำคัญที่ความเหมาะสมกับลูกค้าของทางร้าน ดังที่แมนรัตน์ได้กล่าวไว้ว่า หากลูกค้ามีลักษณะที่วางใจได้ หรือวางใจไม่ได้ ก็ควรพิจารณาและนำไปใช้ตามความเหมาะสมต่อไป

    ตอบลบ
  54. จาก Case Study: Price Chopper
    ระบบ IT ที่ทางบริษัทใช้อยู่ในปัจจุบัน ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพและครบถ้วนทั้งกระบวนการ ดังนั้นเพื่อความมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นข้าพเจ้าจึงอยากเสนอ ระบบ e-Retail เพื่อเป็นการส่งเสริมกลยุทธ์การขาย เนื่องจากปัจจุบัน Life style ของคนเริ่มเปลี่ยนไป ต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการที่ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านทาง Internet (Online Buying) ได้ ย่อมเป็นการส่งเสริมการขายที่ดี นอกจากนี้ระบบ e-Retail ยังช่วยทำให้ Price Chopper รู้ demand ของสินค้า ซึ่งสามารถทำให้การบริหาร Inventory มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนในการบริหาร Inventory ลงได้

    ตอบลบ
  55. จะเห็นได้ว่ากระบวนการดำเนินงานหลักของ Price Chopper Supermarket ทั้งการรับเงิน การจ่ายเงิน หรือการรับสินค้าจาก Supplier เพราะด้วย Transaction ของ Price Chopper นั้นมีค่อนข้างเยอะ การนำ IT ทำให้การจัดการข้อมูลมีความสะดวกและรวดเร็ว ดำเนินงานอย่างประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    จากการอ่านกรณีศึกษาดังกล่าว ข้าพเจ้าเห็นว่า ระบบการรับสินค้าจาก Supplier อาจทำให้เกิดความล่าช้าเนื่องจากการนับ การรอคีย์ข้อมูล รอคอนเฟิร์มกับการนับ และการรอรับส่งข้อมูลจากระบบ EDI เพราะจำนวนการรับสินค้าของ Price Chopper นั้นมีค่อนข้างมาก ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงคิดว่า บริษัทควรใช้ระบบ Barcode แทน โดยใช้ Barcode เดียวกับตอนขายสินค้า เมื่อรับสินค้าเข้ามาทำการอ่าน Barcode เข้าไปในระบบ จะทำให้การรับสินค้ามีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

    นอกจากนี้ โดยส่วนตัวข้าพเจ้าชอบระบบ Self-service checkout นอกจากสะดวกแล้ว ยังช่วยลดปริมาณบุคลากรหน้าที่ Cashier อย่างเช่นแบบในประเทศไทยได้มาก รวมทั้งลดเวลาการต่อคิว แต่อย่างไรก็ตาม ในสินค้าที่ไม่มี Barcode ข้าพเจ้าคิดว่า ควรเป็นระบบที่มีให้กดเลือกสินค้าจากหน้าจอ หรือแผ่นการ์ดบาร์โค้ดของสินค้าไม่มีบาร์โค้ตแทน เพราะการใช้กล้องในการนับสินค้าโดยยังมีคนมาเกี่ยวข้องอาจทำให้เกิดความล่าช้า

    รชยา สุธีเชษฐ
    5302110092

    ตอบลบ
  56. จาก case study คิดว่า Price chopper ควรจะพัฒนาระบบที่มีอยู่แล้ของตนเช่น ระบสมาชิก หรือ POS ให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ช่นการนำเสนอรายการสินค้า Customize ตามแต่ละราย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความประทับใจให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
    นอจากนี้ Price chopper สามารถเพิมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต่างๆโดยนำระบบ ERP มาใช้ ดังที่มีคนกล่าวไปแล้วในความเห็นก่อนหน้า เผื่อที่จะทำให้ระบบการรับส่งและจัดการข้อมูล เป็นไปด้วยกันอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนในการบริหารจัดการต่างๆลดลง ทั้งเรื่องการจนส่ง การบริหารสินค้าคงคลังและอื่นๆ อย่างไรก็ตามการนำระบบ IT มาใช้จะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความพร้อมของพนักงาน ซัพพลายเออร์ และลูกค้า โดยเฉพาะซัพพลายเออ ว่ามีระบบการจัดการที่รองรับกับระบบ IT ของ Price chopper หรือไม่ เพราะถ้าไม่ได้ ระบบ IT ของ Price chopper ก็จะไม่ถูกใช้อย่างเต็มที่ และมีประโยชน์น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
    นอกจากนี้ปัจจุับนผู้บริดภคมีความเร่งรีบมากขึ้น นิยมใช้เวลากับอินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์มากขึ้น ดังนั้น Price chopper ควรมีช่องทางทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเพื่อ
    - ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับ ลูกค้า และแจ้งข่าวสารโปรโมชัน หรืออีเวนต์ต่างของร้าน รวมถึงอย่างสามารถใช้อินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางในการทำการตลาดเฉพาะบุคคลได้ด้วย ซึ่งจะใช้เงินน้อย แต่เข้าถึงผู้บริโภคได้ดี
    -ใช้เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบาย และผู้บริโภคไม่ต้องรอคิว โดยอาจจะมีในบาง Product line ที่ไม่ใช่ของที่เน่าเสียง่าย หรือลูกค้าจำเป็นต้องไปเลือกสินค้าเอง

    ตอบลบ
  57. ภวิกา โควศุภมงคล 5202115084

    ตอบลบ
  58. Price Chopper ได้มีการนำระบบ IT เข้ามาใช้ในการบริหารงาน เช่น EFT/POS, Self-Service Checkout, EDI เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายต่างๆ , และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับ Price Chopper ได้อีกด้วย

    นอกจากนี้ Price Chopper ควรให้ความสำคัญกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่รักความสะดวกสบายและมีการเน้นการใช้งานในด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยการนำ IT ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ได้แก่ การนำระบบ Online Shopping เข้ามาใช้งาน เพื่อเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระจายสินค้าของ Price Chopper ที่สามารถครอบคลุมได้กว้างขวางและยังมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่าการจัดตั้งร้านค้าอีกด้วย

    การนำ Social Network มาใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภคก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้บริโภคมีแนวโน้มการใช้งานและให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่าน Social Network ต่างๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจที่จะใช้สื่อสารกับผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการสื่อสารแบบ 2 ways communication ทำให้สามารถรับรู้ความต้องการและความคิดเห็นของผู้บริโภค เพื่อนำมาปรับปรุงสินค้าและบริการของ Price Chopper ได้อีกด้วย

    ตอบลบ
  59. เรียนอาจารย์ เนื่องจากหนูป่วยเข้าโรงพยาบาล อาหารเป็นพิษ จึงทำให้เข้ามาคอมเม้นช้า เกินเวลาที่อาจารย์กำหนด หนูมีใบเสร็จโรงพยาบาลยืนยันความสัตย์จริง และหนูขออภัยอาจารย์ด้วยนะค่ะ

    จากกรณีศึกษาข้าพเจ้าชื่นชอบบริษัท Price chopper ที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีเยี่ยมในการพัฒนาและรู้จักนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยกิจการให้สามารถพัฒนา Price Chopper ให้มีประสิทธิภาพในการจัดการ การบริหาร เพื่อเพิ่มความพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะระบบ customer self-service checkout ที่เน้นให้ผู้บริโภคบริการตนเอง ลดปัญหาเรื่องการต่อคิว เพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค ถือเป็นระบบที่ดีและเหมาะสมต่อองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยลดภาะระการจ้างแรงงาน ปัญหายุ่งยากในการจัดการคน

    แต่อย่างไรก็แล้วแต่ การใช้ระบบ POSในการสแกนมาช่วย ถึงแม้จะเหมือนดี แต่ในความเป็นจริงพฤติกรรมของคนในปัจจุบัน เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก จะให้ผู้บริโภคมานั่งสแกนสินค้าทีละชิ้นเอง อาจจะเป็นความลำบากอย่างนึง ซ้ำยังอาจเกิดความผิดพลาดได้ด้วย ดังนั้น การนำระบบ RFID มาใช้อาจจะเป็นทางที่ดีกว่า เพราะใช้ชิปติดกับตัวสินค้าเลย ทำห้ลดความยุ่งยากลงได้ การคิดเงินจึงเกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น

    ถึงอย่างไร Price Chopper ในสายตาของข้าพเจ้าก็ยังคงดีอยู่ ข้าพเจ้ารู้สึกว่า Price Chopper เป้นองค์กรที่ทันสมัย รู้จักพัฒนาและปรับตัวอยู่อย่างเสมอ ทำให้เกิดเป็น Competitive Adventage ให้กับองค์กร และเป็นความได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมได้

    ฐิตยาภรณ์ ธีรานุวรรตน์ 5202115381

    ตอบลบ