1.Identify the networks cited in this case
· VPN หรือ Virtual Private Network หมายถึง เครือข่ายเสมือนส่วนตัว ที่ทำงานโดยใช้ โครงสร้างของ เครือข่ายสาธารณะ หรือเครือข่ายไอพี แต่ยังสามารถคงความเป็นเครือข่ายเฉพาะ ขององค์กรได้ ด้วยการ เข้ารหัสแพ็กเก็ตก่อนส่ง เพื่อให้ข้อมูล มีความปลอดภัยมากขึ้น โดย คำว่า VPN จะครอบคลุมทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (เช่น Gateway และ Router), ซอฟต์แวร์ และส่วนที่เป็นไฟร์วอลล์ เพื่อทำให้การส่งข้อมูลผ่าน VPN มีความปลอดภัยมากขึ้นจึงมีการ เข้ารหัสแพ็กเก็ต ซึง ก็มีอยู่หลายกลไกด้วยกัน เช่น วิธีเข้ารหัสข้อมูล (encryption) เป็นต้น
โดยทั่วไปแล้ว VPN ถูกนำมาใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีสาขาอยู่ตามที่ต่างๆ และต้องการ ต่อเชื่อมเข้าหากัน โดยยังคงสามารถ รักษาเครือข่ายให้ใช้ได้เฉพาะ คนภายในองค์กร หรือคนที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ลูกค้า, ซัพพลายเออร์ เป็นต้น
การติดตั้งเครือข่ายแบบ VPN จะช่วยให้องค์กร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร และสามารถ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของ การดูแลรักษาระบบอีกด้วย นอกจากนี้ ระบบเครือข่าย VPN ยังสามารถ ให้ความคล่องตัว ในการเปลี่ยนแปลง เช่น การขยายเครือข่าย ในอนาคต
รูปแบบบริการ VPN
บริการ VPN แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
1. Access VPN: เป็นรูปแบบในการเข้าถึงเครือข่าย VPN จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ซึ่งสามารถเข้าถึงเครือข่ายได้ใน 2 ลักษณะ โดยลักษณะแรก เป็นการเข้าถึงจากไคลเอ็นต์ใดๆ ก็ได้ โดยอาศัย ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เป็นตัวกลาง ในการติดต่อ ซึ่งจะมีการเข้ารหัสในการ ส่งสัญญาณ จากเครื่องไคลเอ็นต์ ไปยังไอเอสพี และลักษณะที่สอง เป็นการเข้าถึง จากเครื่องแอ็กเซสเซิร์ฟเวอร์ (Network Access Server-NAS) โดยเริ่มต้นจาก ผู้ใช้หมุนโมเด็ม ติดต่อมายังไอเอสพี และจากนั้น จะมีการเข้ารหัสข้อมูล และส่งต่อไปยังปลายทาง
2. Intranet VPN: เป็นรูปแบบในการเข้าถึงเครือข่าย VPN ที่ใช้เฉพาะภายในองค์กรเท่านั้น อาทิ การต่อเชื่อมเครือข่าย ระหว่างสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ และสาขาย่อย ในต่างจังหวัด เสมือนกับ การทดแทน การเช่าวงจรลีสไลน์ ระหว่าง กรุงเทพกับต่างจังหวัด โดยที่แต่ละสาขา สามารถ ต่อเชื่อมเข้ากับ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ในท้องถิ่นของตน เพื่อเชื่อมเข้า โครงข่าย VPN ขององค์กรอีกทีหนึ่ง
3. Extranet VPN: เป็นรูปแบบในการเข้าถึงเครือข่าย ที่คล้ายกับ Intranet VPN แต่มีการขยายวงออกไป ยังกลุ่มลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพาร์ตเนอร์ เพื่อให้ใช้เครือข่ายได้ จุดสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเลือกติดตั้ง VPN คือการเลือก ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่วางระบบรักษาความปลอดภัย เป็นอย่างดี มีส่วนอย่างมาก ในการส่งข้อมูลบน VPN ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะถ้า ไอเอสพี มีระบบรักษาความปลอดภัย ที่รัดกุม ก็จะช่วยให้ ข้อมูลที่ส่งมา มีความปลอดภัยมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว VPN ถูกนำมาใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีสาขาอยู่ตามที่ต่างๆ และต้องการ ต่อเชื่อมเข้าหากัน โดยยังคงสามารถ รักษาเครือข่ายให้ใช้ได้เฉพาะ คนภายในองค์กร หรือคนที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ลูกค้า, ซัพพลายเออร์ เป็นต้น การติดตั้งเครือข่ายแบบ VPN จะช่วยให้องค์กร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร และสามารถ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของ การดูแลรักษาระบบอีกด้วย นอกจากนี้ ระบบเครือข่าย VPN ยังสามารถ ให้ความคล่องตัว ในการเปลี่ยนแปลง เช่น การขยายเครือข่าย ในอนาคตรูปแบบบริการ VPN
บริการ VPN แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
1. Access VPN: เป็นรูปแบบในการเข้าถึงเครือข่าย VPN จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ซึ่งสามารถเข้าถึงเครือข่ายได้ใน 2 ลักษณะ โดยลักษณะแรก เป็นการเข้าถึงจากไคลเอ็นต์ใดๆ ก็ได้ โดยอาศัย ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เป็นตัวกลาง ในการติดต่อ ซึ่งจะมีการเข้ารหัสในการ ส่งสัญญาณ จากเครื่องไคลเอ็นต์ ไปยังไอเอสพี และลักษณะที่สอง เป็นการเข้าถึง จากเครื่องแอ็กเซสเซิร์ฟเวอร์ (Network Access Server-NAS) โดยเริ่มต้นจาก ผู้ใช้หมุนโมเด็ม ติดต่อมายังไอเอสพี และจากนั้น จะมีการเข้ารหัสข้อมูล และส่งต่อไปยังปลายทาง
2. Intranet VPN: เป็นรูปแบบในการเข้าถึงเครือข่าย VPN ที่ใช้เฉพาะภายในองค์กรเท่านั้น อาทิ การต่อเชื่อมเครือข่าย ระหว่างสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ และสาขาย่อย ในต่างจังหวัด เสมือนกับ การทดแทน การเช่าวงจรลีสไลน์ ระหว่าง กรุงเทพกับต่างจังหวัด โดยที่แต่ละสาขา สามารถ ต่อเชื่อมเข้ากับ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ในท้องถิ่นของตน เพื่อเชื่อมเข้า โครงข่าย VPN ขององค์กรอีกทีหนึ่ง
3. Extranet VPN: เป็นรูปแบบในการเข้าถึงเครือข่าย ที่คล้ายกับ Intranet VPN แต่มีการขยายวงออกไป ยังกลุ่มลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพาร์ตเนอร์ เพื่อให้ใช้เครือข่ายได้ จุดสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเลือกติดตั้ง VPN คือการเลือก ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่วางระบบรักษาความปลอดภัย เป็นอย่างดี มีส่วนอย่างมาก ในการส่งข้อมูลบน VPN ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะถ้า ไอเอสพี มีระบบรักษาความปลอดภัย ที่รัดกุม ก็จะช่วยให้ ข้อมูลที่ส่งมา มีความปลอดภัยมากขึ้น
· Leased line คือ บริการเส้นทางการสื่อสารส่วนบุคคลแบบดิจิตอล ที่เชื่อมโยงการรับส่งข้อมูล ภาพ และเสียง ด้วยการใช้โครงข่ายใยแก้ว นำแสงดิจิตอล ใน สามารถรองรับการใช้งานในโครงข่าย เว็บเซิฟเวอร์ ตลอดจนการรับส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และการใช้งานแบบมัลติมีเดีย ซึ่ง leased line เป็นเทคโนโลยีที่มีความเสถียรและความปลอดภัยสูงเมื่อเทียบกับเครือข่ายอื่นๆ
· VAN ( Value Added Networks ) เป็นการจัดการเรื่องการให้การบริการโดยพ่อค้า ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการให้การบริการทั่วไปอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการให้การบริการโดยมีการนำเอาระบบ EDI มาใช้ ตัวอย่าง เช่น การเพิ่มมูลค่าด้วยระบบเครือข่ายนี้ พ่อค้าจะจัดการเรื่องธุรกิจของตนเองด้วยซอฟต์แวร์ทำหน้าที่แปลกระบวนการ มีการดูแลเรื่องตัวเลข และจัดการเรื่องแฟ้มข้อมูล และเป็นผู้ช่วยในการให้การฝึกอบรมการแลกเปลี่ยนให้กับหุ้นส่วนด้วย ซึ่งระบบ VAN จะเร็วกว่าเครือข่ายสาธารณะและมีความปลอดภัยมากกว่า เครือข่ายสาธารณะ
· Internet Connectivity - เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายทั่วโลก โดยผ่านภาษาคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่า protocol โดยสามารถติดต่อได้หลายทางเช่น E-mail, Web board เป็นต้น
2. How does IT improve the performance of Fedex ?
2. How does IT improve the performance of Fedex ?
เพิ่มขอบเขตในการให้บริการ จากการนำระบบ IT มาใช้ ทำให้ FedEx สามารถให้บริการให้กับลูกค้าทั่วโลกได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องตั้งสาขาเพิ่ม
ทำให้มีการบริหารจัดการ Supply chain และ WMS ที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้องและน่าเชื่อถือ ส่งผลให้สามารถบริการลูกค้าที่เป็นตั้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ได้อย่างดี รวมถึงทำให้มีต้นทุนที่ต่ำลงด้วย สร้างเป็น Core compentency ของ FedEx ที่มีเหนือกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน
3. In what ways are personalization and customization provided?
ทำให้ลูกค้าแต่ละคนสามารถที่จะเช็คสถานะของสินค้าที่ตัวเองสั่งได้ ว่าปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนไหน รวมถึงเวลาที่จะส่งมาถึง รวมถึงถ้าไม่พอใจสินค้ายังสามารถยกเลิก หรือคืนสินค้าได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีความเป็นส่วนตัว จำกัดให้ลูกค้าตรวจสอบได้เฉพาะของตัวเองเท่านั้น อีกทั้ง FedEx ยังมีโปรแกรม FedEx ShipAPI ที่จะช่วยให้สามารถตบสนองความต้องการที่หลากหลายและแตกต่างของผู้บริโภค และยังช่วยลดความซับซ้อนในการใช้ง่ายอีกด้วย
4. What are the benefits to the customers?
ในแง่ของลูกค้าทั่วไป ระบบ IT จะทำให้ลูกค่าได้รับสินค้าทีสั่งได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม และยังสามารถเช็คสถานะของสินค้า ว่าปัจจุบัน อยู่ที่ไหนแล้วได้ด้วย รวมทั้งยังลดโอกาสที่ลูกค้าได้รับสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามที่สั่ง เนื่องจากการใช้ระบบ IT มีความแม่นยำมากและมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้น้อยกว่า รวมทั้งยังลดโอกาสการเกิด Human error ลงด้วย อีกทั้ง FedEX ยังมีระบบ FedEx Net Return ทำให้ลูกค้าสามารถคืนสินค้าที่ตัวเองไม่พอใจได้ง่าย และรวดเร็ว
ในแง่ของลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการก็ตะได้รับความสะดวกในการนำระบบของ fedex มาใช้รวมเข้ากับระบบของตนเอง รวมทั้งยังทำให้ประสิทธิภาพในการส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ทั้งต้นทุนที่ต่ำลง และการส่งสินค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็วPhawika Kowsupamongkol 5202115084
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น